xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนครไทยฮือซ้ำ! ตามจี้คดีธนาคารหมู่บ้านโกงเงิน ฝากได้-ถอนไม่ได้นับร้อยล้าน พบเปิด 8 สาขา-เงินเข้ากว่า 400 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิษณุโลก - ชาวนครไทยฮือซ้ำ..จี้คดีธนาคารหมู่บ้านโกงเงิน "ฝากได้ ถอนไม่ได้" กว่า 2 ปี เสียหายเบื้องต้นกว่า 100 ล้านบาท พบระบุข้อความ “ตามพระราชดำริ” ห้อยท้าย-มีชื่อนายก อบต.เป็นประธาน เปิดรับฝาก/ปล่อยกู้ 8 สาขาเครือข่าย ยอดเงินรวมกว่า 400 ล้าน แต่บางสาขาไม่มีเงินสดเหลือ บางสาขามีแค่ 2 ล้าน


วันนี้ (18 มี.ค.) ชาว อ.นครไทยหลายหมู่บ้านซึ่งเป็นสมาชิกโครงการธนาคารหมู่บ้าน ตามพระราชดำริ พากันเดินทางไปที่ สภ.นครไทย เพื่อทวงถามความคืบหน้าทางคดี กรณีฝากเงินกับธนาคารหมู่บ้าน แล้วไม่สามารถเบิกถอนได้ตั้งแต่ปี 2564-ปัจจุบัน ผู้รับผิดชอบบอกแต่เพียงว่า "ไม่มี" ทั้งๆ ที่มีการฝากเงินอยู่ตลอด ทำให้ชาวบ้านที่ฝากเงินไว้ต้องสูญเสียเงินกว่า 100 ล้านบาท

โดยชาวบ้านมีหลักฐานเป็นสมุดบัญชี-สลิปการโอนเงินฝาก (บางส่วน) และตอนนี้ชาวบ้านผู้เสียหายทั้งหมดกำลังรวบรวมรายชื่อ และยอดเงินที่ชัดเจน ซึ่งคาดว่าไม่ต่ำกว่า 100-200 ล้านบาท รวมทั้งส่วนใหญ่ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อ สภ.นครไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ

ล่าสุด พ.ต.อ.สมบูรณ์ สีแดง ผกก.สภ.นครไทย และ นายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ ส.ส.เขต 5 พรรคก้าวไกล และนายณัฐวุฒิ ชัยสิทธิ์ ปลัดอำเภอนครไทย ได้รับเรื่อง พร้อมกับชี้แจงแก่ชาวบ้าน

ผกก.สภ.นครไทยกล่าวว่า ธนาคารหมู่บ้าน ตามพระราชดำริ ในพื้นที่ อ.นครไทย ทั้งอำเภอมีจำนวน 10 สาขาย่อย โดยที่ผ่านมาทางธนาคารจะนำเงินฝากของประชาชนให้สมาชิกกู้ แต่ละครั้งก็มีบุคคลค้ำประกัน หลักทรัพย์ค้ำประกันบ้าง แต่การนำเอาโฉนดที่ดินมาค้ำประกันกับธนาคารหมู่บ้าน ตามพระราชดำริ โดยไม่ผ่านสำนักงานที่ดิน ถือว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

และในปี 64 ปรากฏว่ามีสมาชิกไปขอเงินคืนที่ฝากกับธนาคารไว้ จำนวน 4 ธนาคาร คือ ธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ เครือข่ายสาขาบ้านนาบัว เครือข่ายสาขาบ้านน้ำทวน เครือข่ายสาขาบ้านน้ำลอม และธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ เครือข่ายสาขาบ้านโคกเนินทอง แต่ก็ไม่มีเงินคืนให้ โดยอ้างว่าปล่อยเงินกู้ให้สมาชิกไปแล้ว และสมาชิกก็ไม่มีเงินคืนให้ ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทั้งนี้ ทางธนาคารก็แจ้งว่าปัญหาดังกล่าวจะพยายามแก้ไขด้วยกันฟื้นฟูกิจการของธนาคารกลับมา โดยมีแผนอยู่แล้ว

ส่วนของการดำเนินคดีนั้น ขณะนี้ได้ดำเนินคดีต่อคณะกรรมการธนาคารทั้ง 4 แห่งแล้ว ในความผิดข้อหาฉ้อโกงประชาชนและกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสำนวนให้อัยการแล้ว รวมทั้งได้ทำหนังสือไปถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพราะว่าการฉ้อโกงประชาชนตามกฎหมายถือว่าเป็นความผิดมูลฐาน ตามกฎหมายต้องส่งให้ ปปง.ตรวจสอบว่าเส้นทางการเงินไปถึงใครอย่างไร


นายณัฐวุฒิ ชัยสิทธิ์ ปลัดอำเภอนครไทย กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้แล้วและได้รายงานไปยังกระทรวงมหาดไทยพร้อมกับให้ตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งเพื่อมาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยล่าสุดธนาคารหมู่บ้าน ตามแนวพระราชดำริมีจำนวน 8 ธนาคาร มีสมาชิกทั้งหมด 8 พันกว่าบัญชี มีเงินหุ้น และเงินฝาก จำนวน 461 ล้านบาท เงินสดแทบไม่มีเหลือเลย มีบางธนาคารเหลือเพียงหลักพันบาท บางธนาคารก็มี 2 ล้านบาท นอกจากนั้นก็ไม่ทราบว่าเงินหายไปไหน กำลังตรวจสอบอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้เป็นเรื่อง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้เสียหายเคยยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายอธิปไตย ไกรราช ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 64 ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกตรวจสอบ "ธนาคารหมู่บ้าน ตามแนวพระราชดำริ ศูนย์สาธิตบริหารเงินระดับหมู่บ้าน" ต.นาบัว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เนื่องจากมีผู้นำเงินไปฝากในพื้นที่อำเภอนครไทยนับ 100 ล้านบาท แต่ไม่สามารถเบิกเงินออกมาใช้ได้

ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกมอบหมายให้รองผู้ว่าฯ ออกคำสั่งให้นายนิสิต สวัสดิเทพ นายอำเภอนครไทย ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

กระทั่งตัวแทนชาวบ้าน ต.นาบัว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก รวมตัวที่อำเภอนครไทย พร้อมส่งหนังสือร้องเรียนขอความช่วยเหลือ ถึงนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 66 ว่าชาวบ้านจำนวนมากนำเงินไปฝากที่ธนาคารหมู่บ้าน ชื่อธนาคารนาบัว ธนาคารโคกเนินทอง ธนาคารบ้านน้ำล้อม และธนาคารอื่นๆ อีกหลายธนาคาร ซึ่งมีชื่อนายก อบต.คนหนึ่งเป็นประธานฯ แล้วไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา


กำลังโหลดความคิดเห็น