ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เทศบาลนครโคราชเต้น สั่งตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงครูฉาวเรียกเก็บค่าแก้เกรดติด “ร” จากนักเรียน หลังผู้ปกครองแฉ ครูโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครโคราชเรียกเก็บเงินค่าแก้เกรดติด “ร” ชาวโซเชียลฯ แห่ถล่ม ก่อนที่ครูจะออกมาโพสต์ขอโทษและโอนเงินคืนให้นักเรียน อ้างเข้าใจผิดกัน
วันนี้ (17 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ “อีซ้อขยี้ข่าว” ได้โพสต์ข้อความแชตไลน์ เป็นสลิปการโอนเงินจากบัญชีธนาคารของเด็กชายรายหนึ่ง จำนวน 200 บาท โอนให้กับครู โดยเป็นนักเรียนชายชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา พร้อมระบุข้อความว่า “นักเรียนคนหนึ่งเล่าว่าได้ไปแก้เกรดติด “ร” มาเรียบร้อย แต่ต้องจ่ายเงิน 200 บาทเพื่อเป็นค่าลงในระบบ โดยต้องโอนเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัวของครู ถ้าเกิดไม่มีหรือหาไม่ได้ก็ไปยืมเงินเพื่อนมาไม่อย่างนั้นจะไม่ลงในระบบให้และก็จะไม่ให้จบ...(นครราชสีมา)”
ภายหลังจากที่โพสต์ข้อความลงไป ทำให้มีชาวโซเชียลฯ เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ก่อนที่เวลาต่อมาผู้ปกครองของนักเรียนได้นำข้อความแชต กับครูคนดังกล่าว ซึ่งชี้แจงว่าเป็นการสื่อสารเข้าใจผิดกัน และกำลังโอนเงินคืนให้กับนักเรียนทุกคนแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ นายชัชวาล วงศ์จร รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ที่ดูแลสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า ตนเพิ่งจะได้รับการแจ้งเรื่องนี้จากผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดของเทศบาลนครนครราชสีมา โดยจะตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในวันจันทร์ที่ 18 มี.ค.นี้ เนื่องจากขณะนี้มีหลักฐานเพียงการนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ดังนั้นจะให้คณะกรรมการรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความทางแชตไลน์ สอบถามนักเรียน ผู้ปกครอง และครูคนอื่นๆ ในโรงเรียน และครูที่ถูกร้องเรียน อย่างครบถ้วน
เรื่องนี้ทางเทศบาลจะต้องดำเนินการสอบข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีข้อละเว้น ถึงแม้ว่าครูจะอ้างว่าเก็บเงินมาเพื่อซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอน หรือเพื่อจ่ายค่าอินเทอร์เน็ต แต่ก็ต้องมีการแจ้งมาให้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนทราบก่อน
ในวันที่ 18 มี.ค.นี้ตนจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบด้วยตนเอง เพราะทางเทศบาลนครนครราชสีมามีนโยบายว่าโรงเรียนในสังกัดทุกแห่งเรียนฟรีทุกอย่างอยู่แล้ว นอกเสียจากว่าจะเป็นกรณีห้องเรียนพิเศษ ซึ่งจะต้องมีการจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอน และจ้างบุคลากรผู้ชำนาญเฉพาะด้านเพิ่ม โดยทางโรงเรียนที่เป็นข่าวนี้เป็นโรงเรียนที่มีความโดดเด่นด้านภาษาอังกฤษและภาษาจีน แต่ทั้งนี้สำหรับห้องเรียนพิเศษเมื่อจะเก็บเงินเพิ่มก็ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองของนักเรียนทุกคนก่อน
ที่ผ่านมาผู้ปกครองก็เข้าใจดีกันทุกคน เนื่องจากเก็บเงินเพิ่มเล็กน้อยที่สมเหตุสมผล และที่สำคัญโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนในสังกัดที่ดีที่สุด เพราะ 1 ห้องเรียนมีครูประจำชั้นอยู่ถึง 2 คน โดยเป็นครูคนไทย 1 คน และครูชาวต่างชาติ 1 คน นอกจากนี้ยังเป็นห้องเรียนติดแอร์ทั้งหมดด้วย
อย่างไรก็ตาม ตนเได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน หากตรวจสอบพบว่าครูกระทำความผิดจริงจะมีการลงโทษทางวินัยสถานหนักไม่มีข้อละเว้นแน่นอน