ศูนย์ข่าวขอนแก่น-อดีตนักกีฬา เฟสปิกเกมทีมชาติ ปี 2542 นั่งวิลแชร์ พร้อมชูป้ายสีแดงขนาดใหญ่หน้าโรงแรมดังกลางเมืองขอนแก่น ทวงเงินที่เพื่อนยืมแล้วไม่ยอมคืนนับแสนบาท เผยเคยเป็นพนักงานโรงแรมแล้วลาออกได้เงินปันผลสหกรณ์ฯร่วม5แสนบาทแต่เพื่อน4คนยืมไปกว่า 2.2 แสนบาท นานแล้วกว่า2ปีไม่คืนเงินติดต่อไม่ได้
ลั่นจะชูป้ายทวงเงินจนกว่าจะได้คืน
เป็นภาพที่ใครเห็นแล้วอดสงสารและเห็นใจไม่ได้ นายอานนท์วัฒน์ คุ้มถนอม อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210 ม.5 ต หนองกุงเซิน อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น อดีตนักกีฬา เฟสปิกเกมทีมชาติ ปี 2542 นั่งวิลแชร์ พร้อมชูป้ายสีแดงขนาดใหญ่ อยู่ที่บริเวณริมถนน หน้าโรงแรมพูลแมนขอนแก่น ภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พร้อมเขียนป้ายข้อความ ใจความว่า ”ขอความเป็นธรรม เพื่อนยืมเงินไป บางคนหลักแสน บางคนหลักหมื่น แต่ไม่ทำตามข้อตกลง“
จากการสอบถาม นายอานนท์วัฒน์เล่าให้ฟังว่าที่ต้องนำป้ายมาชูขอความเป็นธรรมอย่างที่เห็น เนื่องจากเพื่อนที่เคยทำงานด้วยกันในโรงแรมแห่งนี้ จำนวน 4 คน ยืมเงินไปลงทุน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ไม่ยอมคืนเงินให้ รวมมูลค่าเป็นเงินทั้งหมดจำนวนกว่า 220,000 บาท จึงตัดสินใจออกมาจากหอพัก เพื่อมาชูป้ายทวงเงิน ตนทำติดต่อกันแล้ว 3 วัน เพราะอยากได้เงินคืนมาก
นายอานนท์วัฒน์ เล่าอีกว่า เมื่อ2ปีก่อนตนลาออกจากการทำงานในโรงแรมแห่งนี้ แล้วได้รับเงิน ซึ่งเป็นเงินปันผลสหกรณ์ฯ จากทางบริษัท จำนวน 500,000 บาท จากนั้นได้มีเพื่อนร่วมงานรายหนึ่ง(ขณะนั้น) ได้เดินทางไปขอยืมเงินตนถึงห้องพัก ตอนแรกก็ไม่ให้ พอถูกถามบ่อยครั้งตนก็เลยใจอ่อน และคิดว่าพอออกจากงานมา ก็จะยังคงมีรายได้ เพราะเพื่อนคนนี้สัญญาว่าจะจ่ายดอกเบี้ยให้ทุกเดือน แต่ตอนหลังมาไม่ยอมจ่าย ซึ่งรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 120,000 บาท ส่วนเงินที่ได้กลับคืนมาจำนวน 37,600 บาท จากนั้นเขาก็หายเงียบไป
“หลังจากนั้นติดต่อเขาไม่ได้ทุกช่องทาง ตนไม่ รู้จะทำยังไง เพราะเงินที่ยังไม่ได้คืนรวมกันจำนวนเกือบแสนบาท จึงนำป้ายมานั่งชูข้อความขอความเป็นธรรม เผื่อเพื่อนจะมองเห็นข้อความ แล้วนำเงินมาคืนให้ ตนมีความจำเป็นต้องใช้เงิน”นายอานนท์วัฒน์บอกและสาธยายต่ออีกว่า
เพื่อนที่ยืมเงินไปมีทั้งหมด 4 คน เป็นเพื่อนร่วมงานเก่าโรงแรมแห่งนี้ทั้งหมด คนแรกยืมไป 120,000 บาท คนที่สอง 40,000 บาท คนที่สาม 40,000 บาท และคนสุดท้าย 30,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 230,000 บาท หนึ่งในนี้มี 2 คนที่ตอนนี้ติดต่อไม่ได้เลย ซึ่งตนถูกยืมเงินไปตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 เป็นระยะเวลากว่า
2 ปีแล้ว ตอนนี้จึงอยากวิงวอนลูกหนี้ทุกคน ให้นำเงินมาคืนด้วย เพราะตนต้องการจะกลับบ้าน ไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ที่บ้านเกิดอำเภอภูเวียง แม่อายุ 90 ปีแล้ว และวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วที่ตนออกมาชูป้ายทวงเงินเพื่อน เพื่อหวังว่าจะได้เงินคืน
ตั้งแต่ออกจากงานมา ทุกวันนี้ตน ต้องอยู่ด้วยความยากลำบาก เงินที่เหลือก็ต้องใช้จ่ายในการรักษากายภาพบำบัดตัวเอง อาทิตย์ละ 500 บาท ค่าหอพักก็ต้องจ่าย เงินที่เก็บไว้ตั้งแต่เป็นนักกีฬาเฟสปิกเกมส์ ตอนนี้ก็หมดไปเรื่อยๆ ดังนั้นตนจึงตัดสินใจออกมาถือป้ายทวงหนี้อย่างที่เห็นนี้และจะทำไปจนกว่าเพื่อนนำเงินมาคืน