นครพนม - หนุ่มใหญ่อายุ 38 ปี ทาสยาบ้า เมาคลั่ง ไม่พอใจแม่ทำกับข้าวไม่ถูกปาก ขู่ฆ่า สุดท้ายได้ยินสุนัขข้างบ้านเห่า เกิดรำคาญ ไม่พอใจคว้าปืนยิงสวน กระสุนพุ่งเข้าแสกหน้าเพื่อนบ้านรับกรรมขณะออกมาส่องไฟดู ชุดสืบสวนรวบทันควัน สารภาพหน้ายิ้ม อ้างลงมือเพราะความเมาขาดสติ เสพยาบ้ามา 1 เม็ด
เมื่อเวลา 21.00 น. คืนที่ผ่านมา (12 มี.ค.) พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม ประสาน พ.ต.ท.กันตินันนท์ สงครามยศ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองนครพนม นำกำลังชุดสืบสวน พยัคฆ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามจับกุม คนร้าย ภายหลังรับแจ้งมีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายอดินันท์ เอี่ยมจันทร์ อายุ 35 ปี เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 18 บ้านหนองปลาดุก ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้าแสกหน้าด้วยอาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 นัด ญาติจึงนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม ส่วนคนก่อเหตุเป็นเพื่อนบ้าน ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี
จนกระทั่งล่าสุดช่วงดึกคืนเดียวกันชุดสืบสวนติดตามจับกุมได้ท้ายหมู่บ้าน พาไปตรวจสอบค้นหาอาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ทิ้งในป่าใกล้ที่เกิดเหตุ ทราบชื่อคือ นายขุนหาญ จันทร์แสง อายุ 38 ปี ทำงานเป็นกรรมกรใช้แรงงาน สอบถามพบประวัติเสพติดยาบ้า และมีพฤติกรรมชอบดื่มเหล้า คลุ้มคลั่ง
ก่อนก่อเหตุไม่พอใจว่าแม่ทำกับข้าวไม่ถูกปาก จึงข่มขู่ฆ่าแม่ มีอาการคลั่ง และไปยืนอยู่หน้าบ้านพร้อมปืนแก๊ป จนกระทั่งสุนัขของเพื่อนบ้านเห่า จึงเกิดความไม่พอใจ ประจวบเหมาะกับเพื่อนบ้านเจ้าของสุนัขเดินออกมาส่องไฟฉายดูสุนัข จึงเกิดความไม่พอใจว่าหาเรื่อง ก่อนที่จะเล็งปืนยิงแสกหน้า ห่างกันประมาณ 4-5 เมตร ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้คนก่อเหตุยังสารภาพอีกว่าเสพยาบ้ามาก่อน 1 เม็ดก่อนก่อเหตุ ทำไปเพราะเมาขาดสติ เบื้องต้นตำรวจได้คุมตัวสอบสวน แจ้งข้อหาหนักฐานความผิดพยายามฆ่า
ด้านนางสาวสุนัดดา ลำไพร อายุ 28 ปี ภรรยาคนเจ็บ เปิดเผยว่า คนก่อเหตุเป็นญาติกัน เพราะแม่คนก่อเหตุเป็นป้าของตน บ้านติดกัน มีพฤติกรรมคลุ้มคลั่งบ่อยจากอาการเมา เคยมีเรื่องไม่พอใจกันมาก่อน เพราะปัญหาส่วนตัว ล่าสุดคนก่อเหตุทะเลาะกับแม่ ออกมายืนหน้าบ้านขู่ทำร้ายคนอื่น จนกระทั่งสุนัขในบ้านตนเห่า ทำให้คนเจ็บที่เป็นสามีของตนออกมาส่องไฟฉายดู ประจวบเหมาะเห็นคนก่อเหตุยืนถือปืน จึงไม่พอใจสามีตน ตะโกนถามมาว่าหาเรื่อง และชักปืนยิงแสกหน้าแบบไม่ตั้งตัวจนได้รับบาดเจ็บและขี่รถจักรยานยนต์หนีไป จึงแจ้งตำรวจ และช่วยกันส่งคนเจ็บมารักษาที่โรงพยาบาลนครพนม อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด