บุรีรัมย์ - งามไส้อีก! ลูกสาวบุกร้องศูนย์ดำรงธรรม และแจ้งความที่ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หลังพ่อวัย 61 ปีถูกตำรวจชุดสืบทั้งเตะต่อยจนสลบคาหน้าบ้าน ขณะจะพาเยาวชนชาย 2 คนที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงรุ่นพี่บาดเจ็บ 2 คนไปที่บ้านนายก อบต.เพื่อพาไปมอบตัวโรงพัก เจ้าตัวเผยกังวลคู่กรณีเป็นตำรวจ ขณะรองผู้การฯ รุดเยี่ยม ตรวจสอบข้อเท็จจริง ยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
วันนี้ (12 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.โยทการ คนชุม อายุ 30 ปี ชาวบ้านหนองมะมา ต.ทุ่งแสงทอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง พร้อมแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.นางรอง เพื่อให้ตรวจสอบเอาผิดตำรวจชุดสืบสวนนายหนึ่งในสังกัด สภ.นางรอง ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายทั้งเตะ ต่อย นายไพรัช คนชุม อายุ 61 ปี ผู้เป็นพ่อจนสลบ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 มี.ค. 67 ที่บริเวณหน้าบ้านของตัวเอง ขณะที่นายไพรัชกำลังจะพานักเรียนชาย 2 คนซึ่งมีศักดิ์เป็นหลาน ที่ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนปากกายิงรุ่นพี่ ม.3 ได้รับบาดเจ็บ 2 คนเมื่อคืนวันที่ 9 มี.ค. ไปที่บ้านนายก อบต. ก่อนที่จะพาไปพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.นางรอง
แต่มีตำรวจชุดสืบนายหนึ่งขับรถมาขวางเอาไว้แล้วลงมาโวยวาย บอกว่าจะพาเยาวชนทั้ง 2 ไปโรงพักเอง ทั้งพยายามจะใส่กุญแจมือเด็กด้วย แต่นายไพรัชบอกกับตำรวจนายดังกล่าวว่าเดี๋ยวจะพาไปมอบตัวเอง ทำให้ตำรวจนายดังกล่าวไม่พอใจได้ต่อว่าด้วยถ้อยคำไม่สุภาพกล่าวหาว่าขัดขวางการทำหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และใช้กำลังทำร้ายร่างกายนายไพรัชจนสลบ ต่อหน้าชาวบ้าน และลูกหลานที่เห็นเหตุการณ์จึงได้ใช้มือถือถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนายไพรัชสลบลูกหลานก็ได้พาส่ง รพ.นางรอง
หลังจากทราบเรื่อง พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ชูสิทธ์ หล่อแสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยเบื้องต้นได้เดินทางไปที่ สภ.นางรอง เพื่อสอบถามรายละเอียด โดยมี พ.ต.อ.กัมพล วงษ์สงวน ผู้กำกับการ สภ.นางรอง มาอธิบายชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิป
โดยชี้แจงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดจนทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งทางผู้เสียหายอาจจะมีความหวังดีจะพาไปพบเจ้าหน้าที่เอง แต่ตำรวจนายดังกล่าวซึ่งไปเห็นตัวเด็กที่ก่อเหตุก็จะนำตัวไปพบพนักงานสอบสวน แต่อีกฝ่ายไม่ให้ไปจึงเข้าใจว่าขัดขวางการทำงานของตำรวจ ทำให้มีการโต้เถียงและชกต่อยตามคลิปที่ปรากฏ ซึ่งจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงหากตำรวจนายดังกล่าวผิดจริงก็ว่ากันไปตามผิด
ขณะที่รองผู้การฯ ระบุว่าให้เวลาตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานชี้แจงภายใน 5 วัน โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย หากทางตำรวจผิดจริงก็ต้องดำเนินการลงโทษทั้งวินัยและกฎหมาย
ด้าน นายไพรัช คนที่ถูกทำร้าย เล่าภายหลังออกจาก รพ.ว่า วันเกิดเหตุตนได้รับโทรศัพท์จากผู้ใหญ่บ้านว่าหลานไปก่อเหตุยิงคนอื่นบาดเจ็บ ตนก็ไปรับหลานและประสานงานกันว่าจะพาหลานไปมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ โดยนัดกันที่บ้านนายก อบต.ซึ่งมีกำนันไปด้วย ในระหว่างที่กำลังจะเดินทางไปก็มีตำรวจนายหนึ่งลงมาบอกว่าจะให้ไปกับเขาและจะใส่กุญแจมือ ตนก็บอกว่าไม่ยอม เพราะว่านัดกันแล้วว่าจะพาไปส่งที่บ้านนายก อบต. โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจรออยู่ที่บ้านนายก อบต.แล้ว แต่ไม่รู้ตำรวจนายนั้นมายังไงจะดึงดันพาตัวเด็กไปให้ได้แต่พอตนไม่ให้ไปเขาก็ไม่พอใจ หลังจากพูดจบเขาทั้งเตะ ต่อย จนตนเองสลบไปฟื้นอีกทีที่ รพ. ตนมองว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ ได้ให้ลูกชายไปแจ้งความไว้แล้ว ยืนยันว่าให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
