ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ แถลงปิดการปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย หลังดำเนินการมา 19 วัน ค้นหาภายในเรือทุกห้องที่สามารถเข้าได้ แต่ไม่พบผู้สูญหายอีก 5 รายที่เหลือ
วันนี้ (11 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย เป็นวันที่ 19 โดยชุดปฏิบัติการร่วมของกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐฯ บนเรือ Ocean Valor ที่จอดเรืออยู่บริเวณอ่าวไทยใกล้จุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการดำน้ำ จำนวน 2 เที่ยว โดยมีภารกิจในการค้นหาผู้สูญหายบริเวณรอบตัวเรือ และการยกโซ่สมอเรือขวาขึ้นสู่เรือ Ocean Valor
โดยผลการปฏิบัติในการค้นหาผู้สูญหาย และทำการตัดโซ่สมอขวา จำนวน 2 เที่ยว ไม่พบผู้สูญหาย สามารถดำเนินการนำโซ่สมอเรือขวาขึ้นเรือ Ocean Valor ได้สำเร็จ และถือเป็นปฏิบัติการวันสุดท้ายตามแผนของการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย โดยในการดำน้ำเที่ยวที่ 1 ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนและนักข่าวได้เข้าร่วมสังเกตการปฏิบัติการด้วย กำลังพลทุกนายปลอดภัยจากการปฏิบัติการในวันนี้
จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการค้นหาและตรวจวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัยบนเรือ Ocean Valor โดยมี พล.ร.อ.ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ โดยภายหลังการตรวจเยี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ในฐานะผู้อำนวยการ กองอำนวยการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัยเป็นผู้ แถลงข่าวปิดการปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย บนเรือหลวงอ่างทอง กลางอ่าวไทย
โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย พล.ร.ต.วิชชุ บำรุง ผู้บังคับหมวดเรือปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย เรือเอก Will Rittenhouse ผู้อำนวยภารกิจ (Mission Commander) ของชุดประดาน้ำผสมทหาเรือ ทหารเรือสหรัฐฯ เรือตรีธงบุญ เพ็งแก้ว นักประดาน้ำทหารเรือ และทำหน้าที่นายทหารติดต่อในชุดประดาน้ำผสมทหารเรือ ทหารเรือสหรัฐฯ
พล.ร.อ.ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวสรุปผลการปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย บรรลุภารกิจและวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ 4 ประการ ได้แก่ การค้นหาผู้สูญหาย การตรวจสอบวัตถุพยาน การปลดวัตถุอันตราย และการนำวัตถุที่มีคุณค่าทางจิตใจของเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมา ซึ่งการปฏิบัติการจำนวน 19 วัน นักดำทั้งหมดมีความปลอดภัย ถือเป็นความสำเร็จในการปฏิบัติงานร่วมกันของทหาเรือไทย และทหารเรือสหรัฐฯ ซึ่งทหารเรือไทยต้องขอขอบคุณทหารเรือสหรัฐฯ เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือในครั้งนี้
สำหรับเรือหลวงสุโขทัย ในปัจจุบันอยู่ในสถานะที่ไม่มีผลกระทบต่อการเดินเรือ หลังจากที่ได้ตัดเสากระโดงเรือความสูง 10 เมตรออก ทำให้ความสูงของเรือลดลงส่งผลให้มีความปลอดภัยต่อการเดินเรือเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ความลึกจากผิวน้ำถึงส่วนที่สูงที่สุดของเรือระยะ 27 เมตร เพิ่มเป็นระยะ 37 เมตร ทำให้เรือหลวงสุโขทัยไม่มีวัตถุและสิ่งที่มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ไม่มีวัตถุอันตรายต่อคนและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล รวมทั้งไม่มีขีดความสามารถทางทหารที่จะสามารถนำไปใช้ได้อีก