พระนครศรีอยุธยา - เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ผิดใจมีปากเสียงทะเลาะกันก่อนคว้ามีดคนละเล่มจ้วงแทงเพื่อนดับคาหน้าห้องพัก ก่อนหลบหนีเข้าไปหลบในป่านานกว่า 2 ชั่วโมง สุดท้ายได้ยินเสียงลูกตะโกนเรียกสงสารลูกเลยออกมามอบตัว
เวลา 15.00 น. วันนี้ (8 มี.ค.) ร.ต.อ.สามารถ รักษาศักดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยาได้รับแจ้งมีเหตุชายถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิตอยู่ภายในหอพักแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 4 ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา แพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์
ในที่เกิดเหตุพบเป็นหอพักสูง 4 ชั้น ชั้นล่างหน้าห้องเลขที่ 1 พบผู้เสียชีวิต 1 ราย ชื่อ นายวิสูตร มณเฑียร อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 36 ม.4 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา สภาพนอนหงายไม่สวมเสื้อ มีบาดแผลถูกแทงใต้ราวนมซ้าย มีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กันผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าในพื้นที่ หลังจากเข้าไปตรวจสอบภายในห้องพบร่องรอยการต่อสู้ ข้าวของกระจัดกระจาย และมีเลือดไหลหยดเป็นทางยาว และยังพบเหล็กขูดชาร์ปเปื้อนเลือดตกอยู่ในห้อง 1 เล่ม และมีดปลายแหลม 1 เล่มหน้าห้อง 1 เล่ม จึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน
สอบถามเจ้าของหอพักกล่าวว่า ช่วงก่อนที่จะพบผู้เสียชีวิตได้ยินเสียงผู้เสียชีวิตทะเลาะกับผู้ก่อเหตุ ชื่อนายตัน บริเวณชั้นล่างเสียงดัง ตนจึงลงมาดูและพบผู้ตายกำลังจะพังประตูเข้าไปหาผู้ก่อเหตุในห้อง จากนั้นผู้ตายเข้าไปทะเลาะกันในห้อง ตนจึงออกไปตามชาวบ้านให้เข้ามาช่วยระงับเหตุ พอกลับมาอีกทีเห็นผู้ตายนอนอยู่หน้าห้องมีเลือดไหลออกมา ตอนนั้นยังไม่เสียชีวิต ตนจึงได้เอามืออุดบาดแผลไว้เพื่อไม่ให้เลือดไหล และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่รีบเข้ามาช่วยเหลือปั๊มหัวใจ แต่ผู้บาดเจ็บทนไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบทราบ เพียงว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุผู้ตายกับผู้ก่อเหตุนั้นทะเลาะกันอยู่ด้านนอก ปกติจะทะเลาะกันบ่อยครั้ง หลังจากก่อเหตุหลบหนีไปทันที
ทางด้าน น.ส.พรอุมา มณเฑียร อายุ 50 ปี พี่สาวซึ่งอยู่ในอาการเสียใจ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ตายและผู้ก่อเหตุทะเลาะกันอยู่ข้างนอกหอและทำร้ายร่างกายกัน หลังจากนั้นมาก่อเหตุทะเลาะกันอยู่ภายในหอพัก ผู้ตายพักอาศัยอยู่ชั้น 1 ห้องที่ 13 ส่วนผู้ก่อเหตุพักอยู่ห้องที่ 1 ส่วนสาเหตุนั้นผู้ตายกับผู้ก่อเหตุเป็น เพื่อนกัน แต่มาตอนหลังอาจจะพูดไม่เข้าใจกันจะทะเลาะกันเป็นประจำ จะแค่เถียงกัน แต่ไม่เคยลงไม้ลงมือกันถึงขั้นเอาชีวิตกัน
ด้านทางพนักงานสอบสวนได้ถ่ายรูปจุดเกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะให้ชุดสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่หลบหนีเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จังหวัดปทุมธานี
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ชุดสืบสวนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจค้นหาลานดินป่าหญ้าห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วใช้โดนบินมุมสูงเพื่อค้นหาผู้ก่อเหตุที่คาดว่าอาจจะหลบหนีซุ่มอยู่ในพงหญ้าเพราะมีชาวบ้านพบขณะหลบหนีว่ามาบริเวณดังกล่าว พร้อมประสานทางลูกสาว และลูกเขยของผู้ต้องหาตะโกนเรียกพ่อ เพื่อให้ออกมามอบตัวซึ่งตอนนี้ยังไม่พบ
ทางด้านลูกเขยบอกว่า ช่วง 11 โมงวันนี้ตนยังเอาข้าวมาให้พ่อตา หลังจากนั้นมาทราบข่าวว่าพ่อตานั้นก่อเหตุฆ่าคนตาย ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรกัน เพราะมั่นใจว่าตอนที่ตนไปนั้นพ่อตานอนหลับอยู่ในห้อง โดยไม่มีอาการโมโห หรือจะทำร้ายใคร
เวลาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ทางผู้ต้องหาคือนายสุรชัย เอี่ยมสำอางค์ อายุ 47 ปี ได้เดินออกมาจากป่าหญ้าเพื่อเข้ามามอบตัวต่อ พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมชุดสืบสวนที่กำลังออกติดตามตัวอยู่ หลังจากที่ผู้ก่อเหตุสงสารลูกที่ตะโกนเรียกพ่อให้ออกมามอบตัว
ส่วนสาเหตุนั้น ก่อนหน้านี้ผู้ตายมาหาเรื่องตนจนมีเรื่องระหองระแหงกันมาโดยตลอด และก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้เปิดประตูห้องเข้ามาหา พร้อมทั้งถือไขควงเข้ามาเพื่อมาหาเรื่อง จนเกิดมีปากเสียงกันและมีการปลุกปล้ำกันอยู่ในห้อง ตนจึงใช้เหล็กขูดชาร์ปแทงเข้าไปที่ตัวของผู้ตาย 1 ที จนผู้ตายล้มลงแล้วคลานออกไปนอกห้อง ตนจึงรีบออกจากห้องและหลบหนี ส่วนที่ออกมามอบตัวนั้นรู้สึกสงสารลูกที่ตะโกนเรียกตน ตอนนั้นตนอยู่ในป่าหญ้า และได้ยินเสียงลูกตลอด จึงเกิดความสงสารและเข้ามอบตัวต่อตำรวจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะส่งตัวมอบให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามตามกฎหมายต่อไป