กาญจนบุรี - อดีตนายก ทต.ห้วยกระเจา โวย รพ.เอกชน จ.สุพรรณบุรี ลูกชายแน่นหน้าอกกลางดึก รีบนำตัวไปรักษาแต่ได้กินยากรดไหลย้อน ปั๊มหัวใจนับชั่วโมงเพื่อรอหมอ สุดท้ายลูกชายตายคามือ เผยสุดเสียใจมารู้ทีหลังว่า รพ.ไม่มีหมอ
วันนี้ (8 มี.ค.) นายสิริพงศ์ สืบเนียม หรือนายกพันธ์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1 หมู่ 6 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี อดีตนายกเทศมนตรีตำบลห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ช่วงเวลาเช้ามืดของวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นายศาสตรา หรือฮาร์ท สืบเนียม อายุ 42 ปี ลูกชายของตนกำลังนอนหลับอยู่ที่บ้าน แล้วมีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก จากนั้นภรรยาของลูกชายจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.อู่ทอง สุพรรณบุรี โดยตนได้เดินทางไปดูอาการของลูกชายด้วยตนเอง
เมื่อลูกชายไปถึงโรงพยาบาลสภาพร่างกายยังคงแข็งแรง สามารถเดินขึ้นเปลเองได้ แต่ระหว่างที่นอนรอหมออยู่บนเปล อาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกได้รุนแรงขึ้น ดิ้นทุรนทุราย แต่ยังไม่มีหมอมาดูอาการ มีเพียงพยาบาลเท่านั้นที่คอยดู และนำยาแก้กรดไหลย้อนให้ลูกชายกิน แต่อาการไม่ดีขึ้น มีแต่จะทรุดลง ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันปั๊มหัวใจอยู่ตลอดเวลานานนับชั่วโมง จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น.ลูกชายของตนได้เสียชีวิต
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ก่อนที่ลูกชายของตนจะเสียชีวิตลงนั้น ตนได้พยายามพูดคุยกับทางโรงพยาบาลเอกชน เพื่อขอให้นำรถของโรงพยาบาลส่งตัวลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาลสนามจันทร์ ซึ่งตนได้โทรศัพท์ไปที่โรงพยาบาลสนามจันทร์แล้ว แต่ทางโรงพยาบาลเอกชนไม่ได้ใส่ใจอะไร ได้แต่บอกว่าให้รอทำเอกสารส่งตัวก่อน ซึ่งขณะนั้นตนได้พูดคุยกับลูกสะใภ้และลูกชายคนโตว่าจะเอารถส่วนตัวนำลูกชายไปส่งโรงพยาบาลสนามจันทร์ด้วยตนเอง แต่กลัวว่าลูกชายจะเป็นอะไรระหว่างเดินทาง หากได้รถโรงพยาบาลไปส่งน่าจะปลอดภัยกว่าเพราะมีทั้งพยาบาลและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่พร้อมกว่าที่ตนจะเอารถไปเอง
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ลูกชายของตนเสียชีวิตลง ครั้งแรกตนไม่ได้คิดอะไรมาก โดยแพทย์ได้เขียนในใบมรณะว่า สาเหตุที่ลูกชายเสียชีวิตเป็นเพราะเกิดจาก “กล้ามเนื้อหัวใจตาย” จากนั้นจึงนำศพของลูกชายไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพัก ซึ่งมีครอบครัว รวมทั้งญาติและผู้ที่รู้จักมักคุ้นไปร่วมพิธีกันเป็นจำนวนมาก
โดยเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมาได้มีเพื่อนที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เดินทางมาร่วมงานศพของลูกชาย จึงได้มีการพูดคุยสอบถามถึงสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายซึ่งตนเล่าให้ฟัง เมื่อเพื่อนคนดังกล่าวทราบว่าตนนำลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว เพื่อนถึงกับตกใจพร้อมกับเล่าให้ฟังว่า โรงพยาบาลที่นำลูกชายไปรักษานั้นเป็นโรงพยาบาลที่แทบจะไม่มีหมอ หรือมีก็น้อยมาก คนในพื้นที่เองต่างรู้ดี หากไม่จำเป็นไม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าวแต่จะไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่นแทนเพราะมีหมอที่พร้อมกว่า
หลังจากที่ตนทราบข้อมูลดังกล่าวจากเพื่อน ทางครอบครัวต่างรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะหากทางโรงพยาบาลเล่าความจริงให้ทราบตั้งแต่แรกลูกชายของตนคงจะไม่เสียชีวิตลงง่ายๆ เช่นนี้ สิ่งที่ตนและครอบครัวติดใจคือทำไมโรงพยาบาลจึงไม่ยอมบอกให้เราทราบความจริงว่าโรงพยาบาลนั้นไม่มีหมอในการรักษา หลังจากนี้จะปรึกษากับครอบครัวและญาติ รวมทั้งจะร้องเรียนไปยัง นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ส.ส.กาญจนบุรี เขต 4 พรรคเพื่อไทย เพื่อหารือว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีกับโรงพยาบาลดังกล่าว