ลำปาง - คุณภาพอากาศเมืองรถม้าลำปางถึงระดับสาหัสสากรรจ์..ฝุ่นควันปกคลุมหนาทึบทั้งวัน ล่าสุดบ่ายนี้ค่า PM 2.5 พุ่งทะลุกว่า 180 ไมโครกรัม/ลบ.ม.แล้ว พบจุดความร้อนโผล่กว่า 200 จุด แต่มอดไม้ยังลอบตัด/แผ้วถาง-เผาป่าไม่เลิก
วันนี้ (7 มี.ค. 67) สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 2 ได้รายงานค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่จังหวัดลำปางว่ากลายเป็นสีแดงทั้ง 4 สถานี สูงสุดคือสถานีพระบาท ซึ่งอยู่ในตัวเมือง พบค่า pm 2.5 พุ่งสูงถึง 176.2 มคก./ลบ.ม., ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ 116.6 มคก./ลบ.ม., บ้านดง อ.แม่เมาะ 117.8 มคก./ลบ.ม. และ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ 115.6 มคก./ลบ.ม. แต่ช่วงบ่ายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 181.5 มคก./ลบ.ม.ซึ่งถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพมาก
ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่าบรรยากาศภายนอกปกคลุมด้วยฝุ่นขมุกขมัวทั่วท้องฟ้ามองไม่เห็นภูเขา ขณะเดียวกันก็พบว่าทั่วทั้งจังหวัดได้เกิด Hospot กระจายเป็นวงกว้างกว่า 200 จุด ได้แก่ อำเภอเมือง 23 จุด อำเภอแม่เมาะ 7 จุด อำเภอเกาะคา 7 จุด อ.เสริมงาม 5 จุด อ.งาว 13 จุด อ.แจ้ห่ม 22 จุด อ.วังเหนือ 10 จุด อ.แม่พริก 35 จุด อ.แม่ทะ 19 จุด อ.ห้างฉัตร 7 จุด อ.เมืองปาน 14 จุด
ทั้งนี้ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 2 ขอให้ประชาชนงดกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง ออกนอกอาคาร ให้สวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กทุกครั้ง อยู่ในอาคารหรือห้องที่มีอุปกรณ์ลดฝุ่น หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสภาพอากาศจะเต็มไปด้วยฝุ่นควัน แต่บรรดามอดไม้ก็ยังคงมีการลักลอบแผ้วถางป่าและเผาทำลายป่าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบป่าสงวนแห่งชาติถูกทำลายเกือบ 100 ไร่ ค่าเสียหายภาครัฐมากกว่า 5 ล้านบาท ส่วนมอดไม้หลบหนีไปได้เช่นเคย
นายประสิทธิ์ ท่าช้าง ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) สั่งการให้นายภัทรเรนทร์ ประสิทธิกุล ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบการลักลอบเผาป่าแผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ไฮ บ้านนาแก้วตะวันออก หมู่ 3 ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง จำนวน 2 จุด อ.สบปราบ 10 จุด
จุดแรก พบมีการแผ้วถางป่าโล่งเตียน เผาเศษกิ่งไม้ตอไม้เสียหายทั้งหมด มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างที่พักอาศัยในที่เกิดเหตุ 1 หลัง มีรั้วรอบขอบชิด ตรวจสอบพบพื้นที่ป่าถูกบุกรุกไปทั้งหมดจำนวน 51-3-02 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 3,531,979 บาท จุดที่ 2 อยู่ไม่ห่างกันมากนักพบป่าถูกแผ้วถางเผาเสียหายทั้งหมด พื้นที่ถูกบุกรุกจำนวน 40-0-50 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 2,738,768 บาท
เบื้องต้นไม่พบตัวผู้กระทำผิด คาดว่าหลบหนีเข้าป่าก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาถึง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการอายัดและบันทึกจับกุม โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54, มาตรา 72 ฐาน "ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครอง เพื่อตนเองและผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต" พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ฐาน "ก่อสร้าง เผาป่า ยึดถือครอบครองป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต" ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะคา จ.ลำปาง ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป