ฉะเชิงเทรา - วัดพระธาตุวาโย จ.ฉะเชิงเทรา ใกล้เข้าเค้าเหลือเพียงตำนานแห่งความรุ่งเรือง หลังกระแส “หลวงพ่อปลดหนี้” ไม่ปังดังเก่า จากที่เคยมีคนโชคดีขอพรจนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 แต่เมื่อไม่มีใครได้โชคใหญ่ซ้ำ บรรยากาศที่เคยคึกคักเมื่อกว่า 2 ปีกก่อนก็หายไป
วัดพระธาตุวาโย หรือวัดห้วยน้ำทรัพย์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.2 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เคยมีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศเมื่อช่วงปลายปี 2564 ช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดผวา แต่ยังมีข่าวดีให้ชื่นใจเมื่อสื่อหลายสำนักพากันเสนอข่าวว่ามีผู้โชคดีถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 รับทรัพย์ก้อนใหญ่ถึง 12 ล้านบาท
และเมื่อผู้โชคดีรายดังกล่าวบอกเล่าถึงที่มาของการได้โชคใหญ่ว่า เป็นเพราะได้รับเมตตาจากองค์ “หลวงพ่อปลดหนี้” พระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดพระธาตุวาโย หลังเดินทางเข้ามากราบไหว้ขอพร และได้เลขเด็ดจากการล้วงลูกบอลทรงกลมในไหที่วางอยู่ด้านหลังองค์หลวงพ่อ พร้อมตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากการเสี่ยงดวง
จนทำให้ผู้คนจำนวนมากจากทั่วทุกสารทิศของไทยหลั่งไหลเข้ามาที่วัดแห่งนี้เพื่อกราบไหว้ขอพรองค์หลวงพ่อ ด้วยหวังว่าจะกลายเป็นผู้โชคดีถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นรายที่สอง หรือได้เลขเด็ดเสี่ยงดวงเช่นกัน
และจากกระแสโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืนจากการนำเสนอข่าวของสื่อต่างๆ เรื่องการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ของนักเสี่ยงดวงและนักท่องเที่ยว รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ทำให้ชื่อเสียงของ “หลวงพ่อปลดหนี้” วัดพระธาตุวาโย เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะในช่วงก่อนวันหวยออก ที่การจราจรบนถนนทางหลวงชนบทหมายเลข ฉช.4012 จะหนาแน่นและติดขัดอย่างหนัก สร้างความคึกคักทางการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
แต่สุดท้ายเมื่อไม่มีผู้ใดได้โชคลาภใหญ่เป็นรายที่สอง ทำให้กระแสความนิยมและศรัทธาในองค์ “หลวงพ่อปลดหนี้” เริ่มเบาบางลง นักเสี่ยงดวงและผู้นิยมตัวเลขที่เคยเข้ามากราบไหว้ขอพรเริ่มบางตาลงเรื่อยๆ กระทั่งถึงวันนี้ทั่วทั้งบริเวณวัดกลับมีแต่ความเงียบเหงา เหลือเพียงซากเก่าของร้านค้าขายที่เคยแข่งขันกันเปิดขายสินค้าและอาหารให้แก่นักท่องเที่ยว
โดยเหลือเพียงร้านค้าภายในโซนองค์พระธาตุวาโย ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ 3 ชั้นที่มี 3 แถบสีโดยมีสีขาว สีน้ำเงิน และสีเหลืองทองเป็นสีพื้นทั้งองค์ แลโซนบูชาพญานาคและปล่อยปลาเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น ที่สำคัญในแต่ละวันโดยเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์ยังมีรถยนต์เข้ามาจอดบริเวณลานวัดไม่ถึง 20 คัน
ภาพจากเดิมที่เคยมีรถยนต์จำนวนมากถึงหลักร้อย หลักพันคันในช่วงวันหยุดสำคัญ จนทำให้ทางวัดต้องพัฒนาพื้นที่โดยรอบเพื่อรองรับทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยว จนสามารถปรับเปลี่ยนสภาพถนนลูกรังดินแดงให้เป็นถนนคอนกรีตอย่างดีและมีสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
อีกทั้งเส้นทางสัญจรที่มุ่งหน้ามายังวัดที่เคยได้รับการพัฒนาและถูกขยายให้มีไหล่ทางกว้างขึ้น โดยเฉพาะทางหลวงชนบทหมายเลข ฉช.4012 ที่ตัดผ่านปากทางเข้าสู่วัดแห่งนี้กลับกลายเป็นเส้นทางที่เงียบเหงา
และรอคอยให้เกิดปาฏิหาริย์กับผู้โชคดีรายต่อไป เพื่อปลุกกระแสศรัทธาให้เกิดขึ้นอีกครั้งในภาวะกระแสพุทธพาณิชย์ที่กำลังมาแรงเช่นนี้