นครปฐม - ผบช.ภ.7 นำทีมแถลงผลการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุลงมือโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และพื้นที่ใกล้เคียง อึ้งมีเยาวชนอยู่ในนั้น 4 ราย สารภาพออกตระเวนลักรถจักรยานยนต์ จากยอดสั่งซื้อ และนำไปส่งที่จังหวัดเลย เตรียมขยายผลต่อหาขบวนการที่เป็นต้นตอต่อไป
วันนี้ (28 ก.พ.) พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.อิทธิพล พรเทวบัญชา ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูล ผกก.สภ.นครชัยศรี ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ซึ่งก่อคดีมาหลายพื้นที่ในจังหวัดนครปฐม และจังหวัดใกล้เคียง
โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา รวม 6 ราย ประกอบด้วย 1.นายธนากร กิตติกรดำรงกุล อายุ 33 ปี 2.นายอธิปัตย์ อินทร์อยู่ อายุ 32 ปี 3.นายบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี 4.นายซี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี 5.นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และ 6.นายดี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร”
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่าการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากในห้วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครปฐมจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายให้ประชาชนในพื้นที่ ทางตำรวจภูธรภาค 7 จึงได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมืนำโดยพ.ต.อ.อิทธิพล พรเทวบัญชา ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.ท.ชัยรัตน์ คำสุพรม สว.กก.สส.ภ.จว.นครปฐม เร่งสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ จังหวัดนครปฐม มาดำเนินคดีให้จงได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม โดย พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูล ผกก.สภ.นครชัยศรี ได้สืบสวนกลุ่มคนร้ายที่มาก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน ในเขตพื้นที่ อ.นครชัยศรี เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ และสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ร่วมกันลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ได้ จำนวน 1 ราย คือ นายธนากร กิตติกรดำรงกุล อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายที่เป็นคนขับรถยนต์กระบะด้านท้ายมีตู้ทึบ มารับรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักเอามาขึ้นท้ายรถยนต์กระบะ ขับไปส่งในพื้นที่จังหวัดเลย
จากนั้นตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนจังหวัดนครปฐม สถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี และสถานีตำรวจในสังกัด ภ.จว.นครปฐม ที่เกิดเหตุในลักษณะเดียวกัน จึงทำการสืบสวนขยายผล จนสามารถจับกุมกลุ่มเยาวชนที่ทำหน้าที่เป็นกลุ่มผู้ลักรถจักรยานยนต์ในเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐม ได้อีกจำนวน 5 คน
ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุได้รับสารภาพว่า ได้ร่วมก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และจังหวัดใกล้เคียงในช่วงที่ผ่านมาจำนวนหลายคัน โดยมีการติดต่อกับผู้รับซื้อที่จังหวัดเลย จากนั้นจะออกตระเวนลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ตามที่ผู้รับซื้อสั่งมา ตามหอพัก บ้านเช่า ทางสาธารณะที่เจ้าของจอดไว้โดยไม่ได้มีมาตรการป้องกัน เช่น ไม่ล็อกคอ ไม่มีเครื่องป้องกันรถหาย หรือจอดในที่ที่ไม่มีการเฝ้าระวัง จากนั้นเมื่อได้รถจักรยานยนต์ที่ลักมาจะติดต่อกลุ่มคนร้ายที่ทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะด้านท้ายมีตู้ทึบมารับไปส่งในพื้นที่จังหวัดเลย ซึ่งก่อเหตุมาจำนวนหลายครั้ง จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวดังกล่าว
ผู้บัญชาการตรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า จากการจับกุมกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้สามารถขยายผลดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาได้รวม 15 คดี แบ่งเป็น สภ.นครชัยศรี 4 คดี สภ.บางเลน 4 คดี สภ.โพธิ์แก้ว 4 คดี และ สภ.เมืองนครปฐม 3 คดี และสามารถยึดรถจักรยานยนต์ที่กลุ่มผู้ต้องหาก่อเหตุ และจอดทิ้งไว้คืนมาได้ จำนวน 4 คัน และจะได้ขยายผลไปถึงผู้ที่ทำหน้าที่รับซื้อรถจักรยานยนต์เหล่านี้ที่ถูกลักไปด้วย เพื่อดำเนินการจับกุมให้เสร็จสิ้นทั้งกระบวนการต่อไป
น ส.ภัทรี เดชประไพ อายุ 34 ปี ผู้เสียหายบอกว่าตนใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่ารุ่นเอ็กซ์ Max โดยตอนนี้ยังผ่อนอยู่ราคารถเต็มประมาณ 200,000 กว่าบาท โดยตอนที่ใช้รถจอดจอดไว้ที่นอกบ้านชั้นล่างเพื่อเตรียมจะไปรับน้องแต่ถึงช่วงกลางคืนประมาณตี 4 ออกมาดูพบว่ารถจักรยานยนต์หายไปแล้ว เมื่อเปิดกล้องดูพบว่ามีคนมาลักออกไปโดยมีรถตู้กระบะทึบมารอรับอีกที จากนั้นได้ไปแจ้งความไว้ที่โรงพักตอน 9 โมงที่ สภ. กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.โพธิ์แก้ว จังหวัดนครปฐม แจ้งว่ามีรถของตนถูกจอดทิ้งไว้และได้ติดตามมาคิดว่าจะต้องผ่อนกุญแจเปล่าๆ ซึ่งจากนี้จะมีการล็อกรถให้มากขึ้นเนื่องจากเป็นออเดอร์ที่มีความต้องการสูงในขณะนี้