เชียงใหม่ – กลุ่ม จนท.สาธารณสุข เหยื่อตั๋วเครื่องบินทิพย์ หลายราย ลากกระเป๋าเดินทางขึ้นโรงพักเชียงใหม่ แห่แจ้งความดำเนินคดีสาวเอเจนซี่สุดแสบ ที่ตุ๋นขายตั๋วเครื่องบินไปกลับเชียงใหม่-ภูเก็ตให้เพื่อไปประชุมรับนโยบาย โดยขาไปเดินทางได้ปกติ แต่ขากลับเป็นตั๋วปลอม ทำให้ต้องติดค้างอยู่ที่สนามบินภูเก็ตนาน 22 ชั่วโมง และต้องควักเงินซื้อตั๋วใหม่เพื่อเดินทางกลับ เผยหนึ่งในผู้เสียหายสุดช้ำ ไม่สามารถกลับมาดูใจญาติที่เสียชีวิตได้ทัน ระบุเป็นเอเจนซี่ที่หน่วยงานไว้วางใจและใช้บริการมานานกว่า10ปี หลังเกิดเรื่องพบปิดออฟฟิศหนีแล้ว คาดมีผู้เสียหายอีกเพียบ
วันนี้(24 ก.พ.67) เวลา 11.30 น. นายณัฐพล ใจวงศ์ อายุ 35 ปี นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการโรงพยาบาลจอมทองและนางเปรมมิกา วงค์หล้า นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มควบคุมโรคติดต่อสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่และบุคลากรด้านสาธารณสุข ทั้งหมด 6 ราย ลากกระเป๋าเดินทางมาที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเอเจนซี่สาวขายตั๋วเครื่องบินบริษัทแห่งหนึ่งใน จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่จองตั๋วเครื่องบินเดินทางไป-กลับ เชียงใหม่-ภูเก็ต คนละ 9,830 บาท เพื่อไปประชุมเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่เพื่อรับนโยบายมาบริหารงานในจังหวัดเชียงใหม่ ที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 20-23 ก.พ.2567
โดยซื้อตั๋วเครื่องบินจากตัวแทนของบริษัทแห่งหนึ่งชื่อ น.ส.เกษ ชาวอ.สันป่าตอง เป็นตั๋วราชการไป-กลับ เชียงใหม่-ภูเก็ต คนละ 9,830 บาท ออกเดินทางเมื่อตอนเช้าวันที่ 2 0 ก.พ.2567 เป็นไปตามปกติ แต่ขากลับได้มาขี้นเครื่องที่สนามบินภูเก็ต เวลา 13.00 น.วันที่ 23 ก.พ.2567 แต่เมื่อยื่นตั๋วต่อเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ สนามบินภูเก็ต บอกว่าเป็นตั๋วปลอม และบอกว่าไม่มีการจองตั๋วเครื่องบินและเที่ยวบินอื่นก็ไม่มีเที่ยวบินไปเชียงใหม่แต่อย่างใด
ทั้งนี้นายณัฐพล เล่าว่า หลังทราบว่าเป็นตั๋วเครื่องบินปลอมนั้นพวกตนต่างรู้สึกตกใจคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้คิดว่าคงจะเกิดความผิดพลาด พยายามโทรไปไลน์ไปหาเอเจนซี่ที่ขายตั๋วให้แต่ติดต่อไม่ได้ จึงหารือกับเพื่อนที่ไปด้วยกันเดินไปเคาน์เตอร์ใหม่เพื่อที่จะหาจองตั๋วกลับเอง แต่ปรากฏว่าไฟล์ทที่ภูเก็ต-เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหยุดสุดสัปดาห์เต็มและไม่มีเที่ยวบิน โดยได้เที่ยวบินไฟล์ทเช้าที่สุดคือวันนี้ เวลา 09.30 น. บินถึงสนามบินเชียงใหม่ 11.30 น.จึงได้ตัดสินใจซื้อซึ่งเงินเดือนแต่ละคนเพิ่งออกก็ต้องมาเสียเงินจองตั๋วเอง และต้องนอนรอที่สนามบินนานถึง 22 ชั่วโมง แต่สิ่งที่ตนเสียใจมากที่สุดคือเมื่อวานนี้มีญาติของตนเองเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกันไป 3 ราย ไม่สามารถกลับมาดูใจและช่วยงานได้ ทำได้เพียงแต่วีดีโอคอลคุยกับทางบ้านเท่านั้นส่วนเพื่อนคนอื่นก็ต้องประสบปัญหาไม่สามารถมาเข้าเวรได้ทันต้องแลกเวรให้เพื่อนเขาแทนให้
ดังนั้นวันนี้จึงเข้าแจ้งความเพื่อไม่ให้เอเจนซี่รายนี้ไปทำแบบนี้กับใครอีกพร้อมกับต้องการให้ผู้ที่เคยจองตั๋วเครื่องบินกับเอเจนซี่สาวรายนี้ทั้งที่เคยได้รับผลกระทบแบบตนออกมาเรียกร้องความยุติธรรมและมาแจ้งความเพื่อไม่ให้เขาไปกระทำผิดแบบนี้กับใครอีก ส่วนใครที่จองตั๋วเครื่องบินไปแล้วจะไปเที่ยวมีแพลนจะเดินทางต่อจากวันนี้ขอให้ท่านเช็คตั๋วให้ดีๆไม่อย่างนั้นอาจได้รับผลกระทบแบบที่พวกตนเองโดน
อย่างไรก็ตามต้องการฝากไปยังคุณเกษ เอเจนซี่รายนี้ให้หยุดกระทำการลักษณะแบบนี้ เพราะที่เขาทำไปนั้นสร้างความเดือดร้อนให้บุคลากรในแวดวงสาธารณสุข ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปส่วนของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ / ส่วนของสำนักงานควบคุมโรคที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ เดือดร้อนกันไปหมด
ด้าน นางเปรมมิกา วงค์หล้า นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มควบคุมโรคติดต่อสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้เธอได้โทรหาลูกน้องช่วยไปดูที่ออฟฟิศดังกล่าวแถวแยกสนามบิน แต่พบว่าเหลือแต่ห้องว่างซึ่งลูกน้องเธอสอบถามคนแถวนั้นบอกว่าออฟฟิศนี้ย้ายไปอยู่ที่อำเภอสันป่าตองแล้ว จึงคิดว่าโดนหลอกแน่นอน ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ ทุกคนเดือดร้อนกันหมดไม่คิดว่าเอเจนซี่รายนี้ที่แวดวงสาธารณสุขไว้วางใจ ใช้บริการมา 10 กว่าปี บอกกันปากต่อปากในการจองตั๋วเชื่อใจกันเพราะทุกครั้งไม่มีปัญหา ออกตั๋วให้ตรง พร้อมใบกำกับภาษีสำหรับเบิกจ่ายได้ แต่มาครั้งนี้เธอเสียความรู้สึกมากเพราะมีคนโดนกันเยอะ ซึ่งที่ผ่านมาทราบว่าเอเจนซี่รายนี้เริ่มมีปัญหา ตั้งแต่เดือน กันยายน 2566 ซึ่งทุกคนจะเจอลักษณะเดียวกันคือไปได้แต่กลับไม่ได้ บางรายจองเป็นคณะหมดเงินไปเป็นแสนกว่าบาท บางรายจองตั๋วพรีเมี่ยม แต่เมื่อถึงเวลาเดินทางกลับได้ตั๋วชั้นประหยัด ดังนั้นจึงต้องการให้เอเจนซี่รายนี้หยุดพฤติกรรมนี้และต้องการให้มีการดำเนินคดีและตรวจสอบตั๋วเครื่องบินที่ออกมาด้วย เพราะหวั่นว่าเอเจนซี่รายนี้จะไปก่อเหตุกับบุคลากรรายอื่นอีก และประชาชนที่ต้องการจองตั๋วเครื่องบินแบบสะดวกสบายรายอื่นแต่กลับมาเจอตั๋วปลอมแบบพวกเธออีก
