xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป) “ป๋าเทพ” ยอมรับงง กับรางวัลศิลปินมรดกอีสานที่ได้ แต่ขอบคุณที่มอบรางวัลให้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ราชบุรี - "เทพ โพธิ์งาม" ยอมรับงงกับรางวัลเชิดชูเกียรติศิลปินมรดกอีสาน ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ได้รับ พร้อมขอบคุณที่มอบรางวัลให้ และภูมิใจที่สังคมยังเห็นคุณค่า ยืนยันมีเชื้อสายคนอีสาน

จากกรณีที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินมรดกอีสาน แห่งมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประจำปีพุทธศักราช 2567 เนื่องในโอกาสมหามิ่งมงคล วันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และวันอนุรักษ์มรดกไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมเทิดพระเกียรติโดยการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินมรดกอีสาน

โดยรางวัลเชิดชูเกียรติศิลปินมรดกอีสาน มอบแก่ศิลปินผู้เป็นต้นแบบศิลปะพื้นถิ่นอีสาน เปี่ยมล้นคุณธรรม จริยธรรม เป็นจุดเริ่มต้นแห่งแรงบันดาลใจ ถ่ายทอดศาสตร์ศิลป์ จนเป็นองค์ความรู้อันมีค่ายิ่ง มีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนคนรุ่นหลังอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นทุ่มเท สร้างสรรค์ผลงานอันทรงคุณค่าต่อแผ่นดินอีสาน ก่อคุณูปการด้านศิลปวัฒนธรรมต่อแผ่นดินไทย

มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้มอบรางวัลศิลปินมรดกอีสาน ประกอบด้วย สาขาทัศนศิลป์ สาขาวรรณศิลป์ และสาขาศิลปะการแสดง ซึ่งในรางวัลดังกล่าวปรากฏรายชื่อของ นายสุเทพ โพธิ์งาม หรือป๋าเทพ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินมรดกอีสาน สาขาศิลปะการแสดง (นักแสดงตลก)  จนกลายเป็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่หน้าเพจของศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น KKU Art&Culture Center มีผู้เข้าไปคอมเมนต์ในประเด็นนี้กันอย่างดุเดือด กันเรียกได้ว่ารถทัวน์ลงจอดเป็นที่เรียบร้อย เช่น ทบทวนหน่อยครับมันทำให้ท่านอื่นๆ ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูดูไร้ค่า *สาขาศิลปะการแสดง (3) นายสุเทพ โพธิ์งาม (นักแสดงตลก) หรือมรดกอีสาน เคยใช้ภาษาอีสานในการแสดง เชิดชูภาษาถิ่นบ้านเกิดในการแสดง เคยนำอะไรที่เกี่ยวกับอีสานไปใช้ในการแสดงหรือไม่ ผลงานเด่นเกี่ยวกับภาคอีสานคืออะไร ถึงเอามาเชิดชูว่าเป็น ศิลปินมรดกอีสาน (เทพ โพธิ์งาม)


ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ไร่ของป๋าเทพ อยู่ที่ ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พบกับ ป๋าเทพ หรือนายสุเทพ โพธิ์งาม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีที่ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้คัดเลือกตนได้รับมอบรางวัลมรดกอีสาน สาขาการแสดงตลก ซึ่งตนได้ทราบจากทางมหาวิทยาลัยเมื่อประมาณเดือนก่อน ตนไม่ทราบรายละเอียดในรางวัลดังกล่าว ตนไม่เคยคิดว่าจะได้รับรางวัลอะไร ที่ผ่านมาศิลปินตลกทั่วๆ ไป และเป็นตลกมานานแบบว่าอยู่วงการตลกจนแก่ แต่ตอนนี้อายุ 74 ปีแล้ววางมือจากทุกอย่างแล้ว ตนต้องขอบคุณทางมหาวิทยาลัยที่มอบรางวัลให้



เมื่อถามถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัลนี้ ภูมิใจไหมในฐานะคนอีสาน ตนตอบได้ว่า ตนไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะว่าอยู่ดีๆ เขาโทร.มาบอกเราจะมีโล่รางวัลเกี่ยวกับมรดกอีสาน ตนเองยังไม่เข้าใจ ไม่รู้จริงๆ อยู่ที่ทางผู้ใหญ่เขาว่าจะมอบให้ในเรื่องอะไรตนไม่รู้จริงๆ แต่เมื่อเขาเอามาให้รู้สึกขอบคุณ เขาให้ไปรับเราก็ไปรับ และภูมิใจที่สังคมยังเห็นคุณค่าของเรา ถ้าจะสอบถามว่าได้เรื่องอะไรต้องถามทางมหาวิทยาลัยซึ่งตนเองไม่รู้รายละเอียดมาก

ส่วนเรื่องที่มีคนเข้ามาคอมเมนต์ในทำนองที่ว่าป๋าเทพไม่เหมาะสมกับรางวัลนี้เพราะไม่ใช่คนอีสานแท้ ไม่เคยพูดอีสาน ประเด็นนี้ป๋าตอบได้ชัดเลยว่า ป๋าเป็น “คนลาวพวน” ไม่ได้เป็นลาวอีสาน แต่ปู่เป็นคน จ.ร้อยเอ็ด ตาเป็นคน จ.ศรีสะเกษ ย้ายกันมาอยู่ที่ปราจีนบุรี มาได้เมียที่นี่เป็นลาวพวน ป๋ามาเกิดที่นี่ จะให้ป๋าพูดลาวไม่ถนัดหลอก แต่พอพูดได้ไม่ชัดร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เรามันเชื้อสายอีสานนี่แหละ

ป๋าเทพ ยังเล่าต่อว่า ตอนนี้อายุ 74 ปีแล้ว ป่วยหลายโรค เป็นทั้งโรคหลอดเลือดสมอง มีอาการวูบมาแล้ว 2 ครั้ง หมอต้องให้กินยาอย่างเคร่งครัด ต้องคุมในการกิน การพักผ่อน ต้องเลี่ยงเรื่องเครียดๆ ตามแพทย์สั่ง อีกทั้งตอนนี้วางมือทุกอย่างแล้ว ทั้งการแสดงรับไม่ได้แล้ว เพราะป๋าเริ่มจำบทไม่ได้ พูดบางทียังพูดแบบเร็วๆ ความคิดเริ่มช้าลง ธุรกิจขนมเปี๊ยะให้ลูกๆืดูแลทั้งหมด ตอนนี้ไม่ได้หวังอะไรมาก อยู่ตามประสาคนแก่แล้ว อยู่ในไร่ทุกวัน บางครั้งออกไปเที่ยวพักผ่อนบ้าง ไปครัวลุงรงค์บ้าง ไปต่างจังหวัดบ้าง แต่ยังมีสื่อเป็นของตนเองคือช่อง TikTok ที่ทำ โดยมีคนในครอบครัวช่วยกัน ในช่วงวันหยุดจะนำสินค้าไปขายที่ร้านครัวลุงรงค์

ป๋าเทพ เล่าต่อว่า ส่วนที่มีการโยงในเรื่องประเด็นทางการเมืองนั้น ตนไม่รู้ เพราะไม่ได้ยุ่งเกี่ยว หรือเข้าไปพูดเกี่ยวกับการเมืองแล้วยุติบทบาทไปนานแล้ว เราห้ามคนที่จะคิด หรือพูดได้ก็ต้องปล่อยให้เขาพูดกันไป ตนยังขอบคุณแฟนคลับ คนที่คอยสนับสนุนอุดหนุนสินค้าของครอบครัวของตน ตอนนี้อายุมากแล้ว จะอยู่หรือไปไม่รู้วันไหน เพื่อนๆ ตลกก็ไปกันหลายคนแล้ว ส่วนรางวัลที่ได้มานี้ ตนขอบคุณทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นอีกครั้งที่เห็นถึงความสามารถที่ตนเคยเป็นศิลปินตลกมาเกือบชั่วชีวิต


สำหรับประวัติของป๋าเทพ หรือชื่อจริง สุเทพ โพธิ์งาม ชื่อเล่น เทพ เกิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2492 เกิดที่อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด แต่ไปเติบโตที่นราธิวาส เรียนจบประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนบ้านยะบะ (อุปการวิทยา) อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ก่อนย้ายมาอยู่สะเดา หาดใหญ่ เคยทำงานกับหน่วยฉายหนังกลางแปลง ได้เงินค่าจ้างวันละ 5 บาท ซึ่งได้มีโอกาสเป็นนักพากย์การ์ตูนในหนังกลางแปลงเพราะขาดนักพากย์พอดี

โดยทำอยู่ 7 ปี หนังกลางแปลงถูกยุบ จึงหันเหไปเป็นกรรมกรในโรงถ่าน และได้ไปสมัครงานกับวงดนตรีเพลิน พรมแดน ประมาณ พ.ศ.2512 นับเป็นการเริ่มต้นในวงการจึงได้เจอกับเด่น ดอกประดู่ ให้มาเล่นตลกหน้าเวที หลังจากเด่น ออกจากวงดนตรีเพลิน พรมแดน เด่นได้ชวนเขาเข้าร่วมคณะ เด่น เด๋อ เทพ ประมาณ พ.ศ.2520 จากนั้น 2 ปี ได้แยกมาตั้งคณะ "เทพเพชรธงจิ๋ม" ต่อมาได้น้อย โพธิ์งาม แฉ่ง ช่อมะดัน หม่ำ จ๊กม๊ก มาร่วมคณะกลายเป็นคณะเทพ โพธิ์งาม จนถึงประมาณปี 2538 จึงได้เลิกเล่นคาเฟ่รับงานทีวี ละคร ภาพยนตร์อย่างเดียว

ชีวิตครอบครัว ใช้ชีวิตคู่ร่วมกับภัสราวรรณ ทรงพีระพัฒน์ (จุ๋ม) มีบุตรธิดา 2 คนคือ "ทอฟฟี่" นิชาภา โพธิ์งาม อดีตนักร้องค่าย "ลักษ์มิวสิก" และไทค์ ธนพล โพธิ์งาม (ภัทร โพธิ์งาม) ในปี พ.ศ.2558 ทั้งคู่ได้ประกาศแยกทางกันหลังจากอยู่กินกันมานานถึง 35 ปี และในปี พ.ศ.2559 ได้ประกาศว่ากลับมาคืนดีกันอีกครั้ง และมีน้องสาวอีกคนที่เป็นนักแสดงตลกที่มีชื่อเสียงเช่นเดียวกัน คือ น้อย โพธิ์งาม

"ป๋าเทพ" มีผลงานการแสดงละคร 38 เรื่อง และภาพยนตร์จำนวน 85 เรื่อง และยังเป็นผู้กำกับ 1 เรื่อง และเขียนบทภาพยนตร์อีกด้วย โดยผลงานทางด้านละคร เช่น พ.ศ.2526 เธอกับฉัน ตามจับตามจีบ และหลวงตา กองร้อย 501 ตอนแผ่นดินข้าใครอย่าแตะ และนายฮ้อยทมิฬ คมแฝก และปีสุดท้าย พ.ศ.2561 เรื่องตี๋ใหญ่ 2 ดับ เครื่อง ชน

"ป๋าเทพ" นอกจากการเป็นนักแสดงตลกแล้ว ยังเคยประกอบธุรกิจหลายอย่าง จนเป็นหนึ่งชื่อเสียงของเจ้าตัว เพราะบ่อยครั้งที่ "ป๋าเทพ" ทำธุรกิจ แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร อู่ซ่อมรถ ร้านเสริมสวย บ้านจัดสรร ร้านหมูกระทะ ก่อนจะผันตัวมาทำแบรนด์น้ำข้าวกล้องยี่ห้อ "โพธิ์งาม" แต่ทำได้ไม่นาน เพราะมีปัญหาการขึ้นทะเบียน อย. จนต้องล้มเลิกไป

นอกเหนือจากการทำหน้าที่พิธีกร หรือคอมเมนเตเตอร์รายการเพลงลูกทุ่ง "เทพ โพธิ์งาม" ยังมีกิจการ "ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ" ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2560 หลังเจ้าตัวประกาศลาออกจากวงการบันเทิงในปี 2557 และมาใช้ชีวิตอยู่ที่ไร่ในหมู่บ้านไผ่สามเกาะ ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยใช้การโปรโมตผ่านแฟนเพจ รวมถึงกลุ่มแฟนคลับพากันอุดหนุนอยู่เสมอ
กำลังโหลดความคิดเห็น