เชียงราย - ธุรกิจค้าชายแดนภาคเหนือยังรุ่ง..มูลค่าการค้าผ่านพรมแดนเชียงราย-ลุ่มน้ำโขง สามเหลี่ยมทองคำ พุ่งทะลุแสนล้าน อานิสงส์เขตปลอดภัยจากการสู้รบในเมียนมา ล่าสุดปีนี้ยังนำเข้า-ส่งออกได้ต่อเนื่องทุกวัน
คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ จ.เชียงราย แจ้งว่า ในปี 2566 จนถึงต้นปีงบประมาณ 2567 (ต.ค.-ธ.ค. 2566) การค้าชายแดนด้านเชียงรายผ่านทางด่านศุลกากรแม่สาย ด่านศุลกากรเชียงแสน และด่านศุลกากรเชียงของ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ธ.ค. 2566 มีมูลค่ารวมถึง 100,951,871,977.24 บาท โดยที่ด่านศุลกากรแม่สายมีการส่งออก 16,611,612,120.33 บาท นำเข้า 1,337,070,021.27 บาท ขณะที่ด่านศุลกากรเชียงแสนซึ่งติดกับแม่น้ำโขงมีการส่งออกมูลค่า 9,474,145,787.71 บาท นำเข้ามูลค่า 437,978,005.29 บาท
ส่วนด่านศุลกากรเชียงของซึ่งมีสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อมกับแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว มีการส่งออกมูลค่า 52,987,735,678.45 บาท และนำเข้ามูลค่า 20,053,330,364.19 บาท ทั้งหมดเป็นการค้ากับประเทศเมียนมา สปป.ลาว และมณฑลยูนนาน ประเทศจีน
การค้ากับเมียนมานั้นส่วนใหญ่จะส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ น้ำมันเชื้อเพลิง และนำเข้าสินแร่และสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่การค้ากับ สปป.ลาว ส่วนใหญ่จะส่งออกข้าวสาร น้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าอุปโภคบริโภค และนำเข้าลิกไนต์ สินค้าเกษตร ส่วนการค้ากับจีนนั้นส่วนใหญ่จะนำเข้าผลไม้ สินค้าอุปโภคบริโภค ดอกกล้วยไม้ และนำเข้าผลไม้สด พืชผักสด ดอกไม้ ไม้ประดับ
โดยเฉพาะด่านศุลกากรเชียงของพบว่าการค้ายังคงคึกคัก เดือน ม.ค. 2567 มีการส่งออกแล้ว 2,421,573,751.8 บาท ส่วนใหญ่เป็นผลไม้สด น้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ และนำเข้ามูลค่า 1,411,066,331.71 บาท ส่วนใหญ่เป็นผลไม้สด ผักสด ดอกไม้สด ฯลฯ
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ เปิดเผยว่าหลังวิกฤตไวรัสโควิด-19 และมีการเปิดด่านพรมแดนได้ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะไทย-จีน ที่จะมีมากน้อยขึ้นอยู่กับฤดูกาลผลไม้และพืชผักของแต่ละประเทศ
กระนั้น การค้าผ่านทางด่านศุลกากรเชียงของมีความมั่นคงชัดเจนที่สุด เพราะเป็นการค้าไทย-สปป.ลาว-จีนโดยตรง ส่วนทางฝั่งประเทศเมียนมาการค้าขึ้นอยู่กับสถานการณ์เป็นสำคัญ เช่น รัฐกะเหรี่ยง-รัฐมอญ ฯลฯ ที่มีข้อขัดแย้งกัน และเมื่อมีการปิดด่านแม่สอด-เมียวดี สินค้าระหว่างไทย-เมียนมาก็จะหันมาใช้ด่านศุลกากรแม่สายเพราะสามารถขนผ่าน อ.แม่สาย ไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ต่อไปยังเชียงตุง-ตองจี-ทางตอนในของเมียนมาได้เหมือนเดิม
"เป็นเสน่ห์ของแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ตรงที่จุดอื่นมีปัญหาแต่ที่นี่ยังพอได้และคุยกันรู้เรื่อง เข้าใจว่ามันเป็นเขตปลอดภัยของทุกฝ่ายที่มาถึงจุดนี้จะต้องไม่ทำให้เกิดปัญหา ถ้ามีปัญหาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทุกคนจะเดือดร้อนหมด อันนี้จึงเป็นเสน่ห์ของแม่สายทำให้โอกาสของธุรกิจที่นี่มีและสามารถใช้ช่องทางนี้ให้เป็นประโยชน์ได้ในแง่ของเศรษฐกิจ"
นายพัฒนากล่าวอีกว่า กระนั้น ปัญหาอุปสรรคส่วนใหญ่มีในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ถนนเชียงตุง-ตองจี ที่ยังไม่สะดวก ฯลฯ ซึ่งทางฝ่ายไทยสมัยตนเป็นประธานหอการค้า จ.เชียงราย เคยเรียกร้องมานานแล้ว รวมถึงเรื่องสถานการณ์ภายในเมียนมาเอง เป็นต้น
