ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - นักศึกษาช่างกลโคราชนำปืนมาเล่นในห้องพัก ก่อนทำปืนลั่นใส่หัวเพื่อน กระสุนเจาะหน้าผากอาการสาหัส ส่งต่อเข้าผ่าตัดรักษาด่วนที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ตร.ควบคุมนักศึกษา 1 รายที่ทำปืนลั่นไปสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (21 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจฯ อีซ้อขยี้ข่าวได้โพสต์เหตุการณ์นักศึกษาชายได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนลั่นใส่บริเวณศีรษะ กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล พร้อมกับมีข้อความว่า “มีนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งที่โคราชทำปืนลั่นใส่หัวเพื่อนที่โรงเรียน นักเรียนคนที่โดนกำลังเข้าผ่าตัดที่โรงพยาบาลมหาราช”
ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าสถานที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ในโรงเรียน แต่เป็นหอพักแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนสุรนารี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งอยู่ใกล้กับวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา โดยหอพักดังกล่าวมีอยู่ 2 อาคาร อาคารข้างหน้าเป็นหอพักสูง 3 ชั้น มีกล้องวงจรปิดติดไว้หลายตัว แต่จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณอาคารหอพักด้านหลัง ซึ่งไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด โดยเป็นอาคารหอพัก 2 ชั้น
สอบถามนักศึกษาที่อยู่ในหอพักใกล้กัน (ขอสงวนชื่อ) บอกว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. ภายในห้องพัก 350/19 ชั้นที่ 2 ซึ่งขณะนั้นได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด ก่อนที่จะได้ยินเสียงนักศึกษาร้องขอความช่วยเหลือ และเห็นเพื่อนๆ พากันนำนักศึกษาชาย ซึ่งคาดว่าจะเป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา ชั้น ปวช.ปีที่ 2 ไปส่งโรงพยาบาลโคราชแมมโมเรี่ยล ที่อยู่ใกล้กับหอพักประมาณ 100 เมตร ก่อนส่งต่อไปที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยที่ขณะนั้นไม่มีใครทราบว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะควบคุมนักศึกษา 1 รายที่ทำปืนลั่นใส่ไปสอบปากคำเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “น้อย ร้อย” ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นญาติกับผู้ได้รับบาดเจ็บ โพสต์ภาพนักศึกษาชายที่ถูกยิง โดยภาพเป็นกระสุนเจาะเข้าที่บริเวณหน้าผากศีรษะด้านขวาเป็นรูโบ๋ พร้อมกับภาพขณะที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างผ่าตัดเอากระสุนปืนออก
แหล่งข่าวรายงานว่า กรณีนี้เป็นการทำปืนลั่นใส่ โดยคาดว่านักศึกษาจะนำปืนที่เป็นปืนไทยประดิษฐ์มาเล่นกันในห้อง แล้วเกิดปืนลั่นใส่กันจนได้รับบาดเจ็บสาหัสในครั้งนี้ ถึงอย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมาอยู่ระหว่างสอบสวนผู้ก่อเหตุ และพยานต่างๆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป