ปราจีนบุรี - ตำรวจ สน.ปากเกร็ด นำผัวโหดทุบหัวเมียจนเสียชีวิต นำศพเผาอำพรางในสวนยาง จ.ปราจีนบุรี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางกองทัพนักข่าวและชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์
จากกรณีการหายตัวไปของ น.ส.ชลลดา หรือน้องนุ่น มุธุวงศ์ อายุ 27 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบเค้นอย่างหนัก นายศิริชัย รักทอง อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นสามีจนยอมรับสารภาพว่าได้พลั้งมือฆ่าภรรยาตนเองก่อนขับรถนำศพไปเผาอำพรางคดีที่ จ.ปราจีนบุรี จากนั้นจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด ว่าภรรยาหายตัวไปเพื่อกลบเกลื่อนการกระทำ
แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ นายศิริชัย ทำร้ายร่างกายภรรยาอย่างโหดเหี้ยม บริเวณริมถนน ทั้งต่อยและเตะเข้าที่ใบหน้าและศีรษะอย่างรุนแรงนานกว่า 10 นาที จนกลายเป็นหลักฐานมัดตัวจนดิ้นไม่หลุดนั้น
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (21 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้นำตัว นายศิริชัย หรือทอย รักทอง อายุ 33 ปี ขึ้นรถตู้เดินทางมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพเผาศพเมียอำพรางคดีภายในพื้นที่ป่ายาง ม.10 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยมีกองทัพสื่อมวลชนติดตามมาทำข่าวและรุมล้อมผู้ก่อเหตุเพื่อขอสัมภาษณ์ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถนำตัวลงจากรถได้และต้องขอเปิดช่องทางเพื่อลงไปจุดเกิดเหตุ
พร้อมนำถังแกลลอนน้ำมันขนาด 20 ลิตร จำนวน 2 ถัง และกระเป๋าเดินทางใส่ตุ๊กตาแทนผู้เสียชีวิต เพื่อจำลองเหตุการณ์ที่
โดย นายศิริชัย ได้จำลองเหตุการณ์ขณะเปิดกระเป๋าเดินทางที่ภายในมีศพเมียของตน ก่อนราดน้ำมันใส่พร้อมจุดไฟเผา ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการทำแผนนานประมาณ 10 นาที จึงแล้วเสร็จ โดยที่เจ้าตัวไปยอมปริปากให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุด ผู้บังคับการจังหวัดปราจีนบุรี พ.ต.อ.สุรพร เทพเสน ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ พ.ต.ท.มานิตย์ กิจหิรัญ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพถูกเผาในสวนยางจนเหลือแต่โครงกระดูกมนุษย์
แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสว่าศพดังกล่าวคือศพของน้องนุ่น เป็นเพราะสร้อยข้อมือที่คล้ายกับสร้อยข้อมือของหญิงสาวที่มีการแจ้งความไว้ว่าหายตัวไปในพื้นที่ จ.นนทบุรี จนนำสู่การติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ
และจากการนำโดรนขึ้นบินสำรวจเส้นทางที่คนร้ายใช้เดินทางมายังจุดเผาอำพรางศพ คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะใช้เส้นทางสาย 359 เขาหินซ้อน-สระแก้ว เพื่อเข้ามาจุดที่นำศพมาเผาซึ่งอยู่ห่างจากถนนประมาณ 300 ถึง 400 เมตร โดยพบว่าเป็นจุดอับและไม่ค่อยมีใครสัญจรเข้าออก เบื้องต้นจึงเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะชินเส้นทางเป็นอย่างดี เนื่องจากผู้ตายเคยทำงานอยู่ที่บ่อนกาสิโนในประเทศเพื่อนบ้าน