ภาคอีสาน - เจอการเมืองเล่นงานจนได้ “ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม” ถูกเขี่ยจากเก้าอี้อธิบดีกรมพัฒนาชุมชนไปเป็นผู้ว่าฯโคราช วิจารณ์กันให้แซดเพราะขวางการขึ้นสู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยของใครบางคนที่ถูกวางไว้แล้ว แต่หากย้อนดูเส้นทางการรับราชการของเขา ลูกหม้อมหาดไทยที่ชื่อ “ผู้ว่าฯ ติ๊ก” เป็นที่รักของประชาชนทั้งชาวเมืองเลย และชาวปทุมธานี
กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อย ภายหลังมติ ครม.ให้โยกย้าย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หลายคนกังขาว่าอธิบดีชัยวัฒน์ทำผิดอันใด ถึงถูกลดตำแหน่งทางราชการจากอธิบดีกรมลงไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด หรือไปขวางเส้นทางขึ้นสู่เก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนของรัฐมนตรีหรือผู้มากอิทธิพลทางการเมืองคนไหนหรือไม่ เพราะหากให้นายชัยวัฒน์นั่งในตำแหน่งอธิบดีต่อ เขาเป็นตัวเต็งที่มีความชอบธรรมจะได้รับการแต่งตั้งนั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงฯ
สำหรับนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม หรือผู้ว่าฯ ติ๊ก รายนี้ ประชาชนคนไทย โดยเฉพาะชาวเมืองเลย ชาวปทุมธานีต่างรู้ดีว่าเป็นข้าราชการระดับสูงน้ำดีคนหนึ่งที่หาได้ยากมากในเมืองไทย สมัยดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 2 จังหวัดดังกล่าว เขาทุ่มเททำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำตัวสมถะติดดิน
ภาพจำที่สังคมรับรู้ร่วมกันและประทับใจกันมาก เช่น ขณะเป็นผู้ว่าฯ จ.เลยหากวันใดไม่มีภารกิจเร่งด่วน เขาจะปั่นจักรยานไปทำงานที่ศาลากลาง เสียสละเงินส่วนตัวไปไถ่ถอนเครื่องมือทางการเกษตร เครื่องมือก่อสร้าง ฯลฯ ออกจากโรงรับจำนำ ให้ชาวบ้านได้นำไปทำมาหากินเลี้ยงปากท้องดูแลครอบครัว หรือการจัดเลี้ยงอาหารกลุ่มคนกวาดถนน ทำความสะอาดในเทศกาลขึ้นปีใหม่ หรือหลังถูกย้ายเป็นพ่อเมืองปทุมธานีก็เสียสละเงินเดือน 3 เดือน เพื่อสมทบเงินช่วยเหลือชาวปทุมธานีช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก
หากย้อนไปไกลกว่านั้น จะทราบว่าชีวิตในวัยเด็กของนายชัยวัฒน์ไม่ได้สุขสบาย เข้าขั้นยากจน ยากลำบากด้วยซ้ำ ต้องถีบรถสามล้อรับจ้างหาเงินช่วยพ่อแม่และส่งตัวเองเรียน ขยันศึกษาหาความรู้จนสอบเทียบชั้น ม.3 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเลยสำเร็จ การศึกษาสูงสุดเขาเรียนจบปริญญาโท รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการปกครอง จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หลังจากนั้นได้สอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ รุ่นที่ 49 เป็นปลัดอำเภอครั้งแรกในปี พ.ศ. 2535 ณ อำเภอโพนพิสัย จ.หนองคาย ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 ได้นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ปี พ.ศ. 2557 เป็นหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย
ปี พ.ศ. 2558 เป็นรองผู้ว่าราชการ จ.นครราชสีมา และขึ้นเป็นรองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ถัดจากนั้นในปี พ.ศ. 2559 เป็นที่ปรึกษาด้านการปกครอง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ปี พ.ศ. 2560 เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และข้ามภาคไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กระทั่งในปี พ.ศ. 2563 ย้ายไปเป็นพ่อเมืองจังหวัดปทุมธานี และปี พ.ศ. 2564 ขึ้นเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และก่อนจะถูกย้ายกลับมานั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ เมืองย่าโม เขาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน