จนท.เร่งแกะรอยจับเสือโคร่งตัวเขื่องยังป้วนเปี้ยนรอบชุมชนกะเหรี่ยงน้ำตกคลองลาน พบกัดหมูคอเหวอะ!

กำแพงเพชร - จนท.ยังคงเร่งแกะรอยตามจับเสือโคร่งตัวใหญ่ข้ามถิ่นป้วนเปี้ยนบ้านกะเหรี่ยงน้ำตกคลองลาน กำแพงเพชร แถมคาบคอหมูจากเล้าชาวบ้านลากไปกิน



ความคืบหน้ากรณีพบเสือโคร่งขนาดใหญ่เดินป้วนเปี้ยนกลางหมู่บ้าน พื้นที่หมู่ที่ 18 บ้านกะเหรี่ยงน้ำตก ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำวันที่ 16 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ (18 ก.พ. 67) นายสุระชัย โภคะมณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติคลองลาน พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ 60 นาย ยังคงควบคุมสถานการณ์พื้นที่โดยรอบ และประชาสัมพันธ์ไม่ให้ราษฎรในหมู่บ้านกะเหรี่ยงน้ำตกและใกล้เคียงอย่าทำร้ายเสือโคร่ง และไม่ให้เข้าใกล้พื้นที่รัศมี 5 ตารางกิโลเมตร เกรงได้รับอันตราย

เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลัง 4 ทิศเฝ้าสังเกตการณ์เสือโคร่งตลอดเวลาทั้งคืนวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยติดตั้งกล้อง NCAPs จากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และกล้อง Camera Trap จากองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF ประเทศไทย) ตามต้นไม้หลายๆ ต้น เพื่อคอยดูความเคลื่อนไหวของเสือโคร่งที่จะย่องเข้ามาดูเหยื่อ พร้อมวางแผนขั้นต่อไปทันทีที่เห็นภาพจากกล้องที่ติดตั้งไว้

ทั้งนี้ จากการประเมินอาการของเสือโคร่ง พบเป็นเสือโคร่งเพศผู้ สูงประมาณ 70-80 เซนติเมตร ยาวประมาณ 1.50 เมตร อยู่ในช่วงวัยรุ่น อายุประมาณ 2 ปี ร่างกายผอม เดินเหมือนไม่มีแรง มีอาการเหมือนหิวอาจอดอาหารมาหลายวัน และมีอาการหวาดระแวงวิ่งบ้างเดินบ้างตลอด จากนั้นก็หลบหมอบในพุ่มไม้ป่ารกเงียบๆ

ขณะที่ นางสาวพิมพ์ชนก สรงมงคล นายสัตวแพทย์ ดร.อัจฉร ซิ้มเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สบอ.12 (นครสวรรค์) ทีมเจ้าหน้าที่ WWF กองทุนสัตว์ป่าโลกสากล องค์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ และนางสาวอังสนา มองทรัพย์ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ปรึกษาวางแผนด้วยวิธียิงยาสลบ พร้อมกรงที่เตรียมไว้เพื่อเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่นำไปฟื้นฟูที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง

กล้อง NCAPs จากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และกล้อง Camera Trap จากองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF ประเทศไทย) ตามต้นไม้หลายๆ ต้น บันทึกภาพและคลิป (ตามคลิปและภาพ) ติดตามการเข้าออกของเสือโคร่งตัวดังกล่าวในพื้นที่ป่ามะขามหวาน ซึ่งเสือโคร่งยังคงวนเวียนอยู่แถวหมู่บ้านที่ได้คาบเหยื่อเป็นหมูไปจากเล้าของชาวบ้านเมื่อคืนวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ทางเจ้าหน้าที่ฯ ก็ยังไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้ เนื่องจากเสือโคร่งหลบซ่อนตัวในพื้นที่ป่ารก ทำให้เป็นอุปสรรคในการยิงยาสลบ

อย่างไรก็ตาม จะเร่งหาทางดำเนินการนำเสือออกจากพื้นที่ให้โดยเร็ว โดยมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่จากสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี มาเสริมเพิ่มอีก คาดว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาดคงจะได้ตัวเสือโคร่งค่ำคืนนี้แน่นอน