กาญจนบุรี - หวย 30 ล้านอลเวงยังสู้กันอีกยาว วันนึ้ศาลเลื่อนอ่านดำพิพากษาไปเป็นวันที่ 20 มี.ค.2567 เนื่องจากคำพิพากษาอยู่ในขั้นตอนของการส่งให้อธิบดีภาคตรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีศาลจังหวัดกาญจนบุรีนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีหวย 30 ล้านอลเวง ที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ เอาคืนด้วยการฟ้องกลับนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา รวม 3 คดี ประกอบด้วยคดีที่ ร.ต.ท.จรูญ ยื่นฟ้อง ครูปรีชา ใคร่ครวญ รวมทั้งนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และนางพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช คดีหมายเลขดำที่ อ.2185/2561 คดีหมายเลขแดงที่ อ.3355/2561 ในข้อหาความผิดฐาน “ร่วมกันเบิกความเท็จ”
คดีที่หมวดจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องครูปรีชา ใคร่ครวญ กับพวกรวม 10 คน คดีหมายเลขดำที่ อ.1558/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อ.2707/2566 ในข้อหา “ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม”
และคดีหมวดจรูญ วิมูล เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา และนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัว คดีหมายเลขดำที่ อ.2512/2562 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.2461/2564 ในข้อหาหรือฐานความผิด "ร่วมกันเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา"หลังจากศาลพิจารณาแลวเสร็จ
นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวของครูปรีชา และเป็น 1 ในจำเลยที่ถูกหมวดจรูญฟ้อง จึงออกมาเปิดเผยภายหลังว่า วันนี้ศาลท่านยังไม่ได้อ่านคำพิพากษา เนื่องจากว่าคู่กรณีไม่สามารถตกลงกันได้ ศาลท่านจึงส่งสำคำพิพากษาไปที่ภาคเพื่อร่างคำพิพากษาเสียก่อนและได้มีการเลื่อนอ่านคำพิพากษาอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 20 มี.ค.67 ซึ่งวันนี้ศาลท่านยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาจึงยังไม่ทราบว่าใครผิดถูกอย่างไร
สำหรับกระบวนการไกล่เกลี่ยที่ยังไม่ลงตัวนั้นอยู่ที่เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว เนื่องจากหากมีเงิน จำนวน 2.5 ล้านบาทมาให้ลุงจรูญก็พร้อมที่จะรับ แต่ปรากฏว่าครูปรีชาไม่สามารถที่จะนำเงินมาชำระได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงทำให้หมวดจรูญ ไม่ประสงค์ที่จะเจรจาอีกต่อไป ส่วนตัวของผมเองไม่ขัดข้องหากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะยอมเจรจากัน
ถามว่าคดีที่ถูกฟ้องจะส่งผลกระทบหรือไม่ในฐานะที่เป็นทนาย นายวรยุทธ ตอบว่าคงไม่ส่งผลกระทบอะไรและผมยังเชื่อมั่นในวิชาชีพของทนายความอยู่ การที่ผมต้องมาถูกฟ้องดำเนินคดีก็ทำในฐานะหน้าที่วิชาชีพของทนายความ
ขณะที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอบอกสื่อมวลชนก่อนว่าวันนี้มีทั้งหมด 3 คดี คดีแรกคือคดีที่ลุงจรูญฟ้องครูปรีชากับทนายวรยุทธ ในความผิดฐาน "ร่วมกันเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา" ซึ่งคดีนี้ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้ แต่บังเอิญว่าอยู่ในขึ้นตอนที่จะต้องส่งไปให้ท่านอธิบดีฯตรวจคำพิพากษาก่อน ซึ่งคดีนี้ถือว่าเป็นคดีหลักที่เรามั่นใจว่าครูปรีชาจะต้องติดคุก แต่ศาลท่านได้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาในวันที่ 20 มี.ค.2567
คดีที่สองคือคดีที่ลุงจรูญ ยื่นฟ้อง ครูปรีชา ใคร่ครวญ รวมทั้งนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และนางพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช คดีหมายเลขดำที่ อ.2185/2561 คดีหมายเลขแดงที่ อ.3355/2561 ในข้อหาความผิดฐาน “ร่วมกันเบิกความเท็จ” ซึ่งคดีนี้นั้นครั้งแรกครูปรีชาปฏิเสธแล้วเปลี่ยนมารับสารภาพในภายหลัง และในวันนี้ครูปรีชา จะขอปฏิเสธอีกครั้งหนึ่ง แต่ศาลท่านได้พิจารณาแล้วไม่อนุญาตเพราะมองว่าเป็นการประวิงคดี ครูปรีชาจึงต้องรับสารภาพไปแบบนั้น แต่ในส่วนของเจ๊บ้าบิ่นและเจ๊พัช ยังปฏิเสธอยู่ ดังนั้นศาลจึงเลื่อนอ่านคำพิพากษาในคดีที่ครูปรีชารับสารภาพในข้อหาเบิกความเท็จช่วงมีการอายัดเงินของลุงจรูญที่เป็นคดีแพ่งไปสืบพยานในเดือนกรกฎาคม เมื่อสืบพยานของเจ๊บ้านบิ่นกับเจ๊พัชแล้วเสร็จ ศาลท่านจะพิพากษาคำรับสารภาพของครูปรีชาไปในคราวเดียวกัน
คดีที่สามคือคดีที่ลุงจรูญ วิมูล เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพยานจำนวน 10 คน คดีหมายเลขดำที่ อ.1558/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อ.2707/2566 ในข้อหา “ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม”คดีนี้ลุงจรูญมองว่าเป็นการเบิกความเท็จ ศาลได้มีการนัดไต่สวนในวันที่ 1 เม.ย.2567
ซึ่งวันนี้ผมได้ติดเอาคำพูดของครูปรีชามาคำหนึ่งเนื่องจากครูปรีชาได้เข้ามาตำหนิลุงจรูญว่า “ฟ้องพยานแบบนี้สังคมจะอยู่อย่างไร”หลังจากที่ลุงจรูญ ได้ยินคำที่ครูปรีชาพูดออกมาจึงเกิดความโมโหขึ้นมาทันทีเพราะที่ผ่านมาลุงจรูญถูกครูปรีชาฟ้องมาก่อนร่วม 10 คดี พยานที่มาเบิกความก็พูดไม่ตรงความจริงทำให้ลุงต้อสู้คดีมาอย่างยาวนานหลายปี แล้วครูปรีชายังกล้ามาบอกลุงจรูญว่าทำให้สังคมอยู่ยากอีก
ซึ่งถึงตรงนี้แล้วลุงจรูญ ก็คงจะไม่ไกล่เกลี่ยกันอีกแล้ว เพราะต้องการที่จะให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษ ถึงแม้ครูปรีชาจะมาเสนอเงินให้เพื่อไกล่เกลี่ยก็คงจะลำบากแล้ว แต่หากครูปรีชารู้สึกสำนึกผิดก็ขอให้เอาเงินไปวางศาลจะดีกว่า เพื่อให้ศาลบรรเทาโทษให้ แต่ว่าในส่วนของคุณลุงคงจะไม่ยอมใจอ่อนไปถอนฟ้องให้
ที่สำคัญผมพึ่งทราบข่าวมากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบทำคดีเรื่องแจ้งความเท็จ ได้มีการเรียกครูปรีชาไปที่อัยการแล้วจึ่งเชื่อว่าอัยการน่าจะมีการส่งฟ้องในเร็วๆนี้ ซึ่งทุกการกระทำมันเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระกันทั้งหมด ซึ่งครูปรีชาจะต้องรับโทษในสิ่งที่ทำมาในทุกๆเรื่อง
ด้านหมวดจรูญ เปิดเผยกรณีที่ครูปรีชาพูดว่าการที่ผมฟ้องพยานแล้วสังคมจะอยู่อย่างไรนั้น เรื่องนี่ความจริงผมจะต้องเป็นฝ่ายพูดให้เขาฟังมากกว่า เพราะที่ผ่านมาผมถูกฟ้องดำเนินคดีร่วม 10 คดีต้องต่อสู้มาอย่างยาวนานก็ไม่เห็นครูปรีชามาช่วยผมเลย แต่จ้องจะเอาผมเข้าคุกอย่างเดียว ซึ่งวันนี้คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ววันหน้าก็ให้เลิกคุยกันดีกว่า และอยากให้สื่อมวลชนไปถามครูปรีชาว่ายังยืนยันหรือไม่กับคำพูดที่ว่า ความจริงก็คือความจริง ซึ่งผมอยากให้เขาพูดคำนี้บ่อยๆหน่อย
ด้านนายปรีชา หรือครูปรีชา ใคร่ครวญ ออกมาเปิดเผยว่า การไกล่เกลี่ยขณะนี้ยังไม่ลงตัว ศาลท่านจึงเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปก่อน ส่วนสาเหตุการไกล่เกลี่ยที่ยังไม่ลงตัวก็เพราะความเข้าใจกันที่ยังไม่เป็นหนึ่งเดียวสักวันหนึ่งก็คงจะเข้าใจแต่ต้องใช้เวลาอยู่บ้าง
ถามว่าครูปรีชาไปทำอะไรให้ลุงจรูญถึงกับต้องโกรธ ครูปรีชาตอบว่าไม่ได้ทำอะไร เพียงแค่พูดว่าเมื่อพยานเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฎหมายแล้วอยู่ๆฝ่ายลุงจรูญไปฟ้องพยานของผมไปร่วม 10 คน แล้วต่อไปใครจะกล้ามาเป็นพยานให้สังคมอีก ยกตัวอย่างเช่นมีคนฆ่ากันแล้วพลเมืองดีมาเห็นเหตุการณ์ พยานจะบอกเจ้าหน้าที่ว่าใครเป็นคนทำแต่ต้องมาถูกฟ้องแล้วใครจะกล้ามาเป็นพยานให้