บุรีรัมย์ - คืบหน้ากรณีลูกสาวโอนเงินให้พ่อถูกถอนออกปริศนาทุกเดือนทางบัตร ATM หายไปกว่าแสนบาท ผกก.สภ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เผยล่าช้าเหตุรอหลักฐานวงจรปิดที่ธนาคารส่งไปผิดโรงพักโผล่ที่ สภ.ระนอง เร่งประสานหากได้หลักฐานมา ตร.จะดำเนินการทันที พ่อจี้ธนาคารชี้แจงข้อเท็จจริงและอยากได้เงินที่หายไปคืน
วันนี้ (7 ก.พ.) ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.อัมพาพร พลนางรอง อายุ 32 ปี ชาว ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานสลิปการโอนเงินให้กับนายเลื่อน พลนางรอง อายุ 60 ปี ผู้เป็นพ่อ เดือนละ 10,000 บาท ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อเพื่อจี้ให้ทางธนาคาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากที่พ่อบอกกับลูกสาวว่าเงินที่โอนมาให้ถูกถอนออกอย่างเป็นปริศนาทุกเดือนนานนับปี โดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนถอนออกรวมเป็นเงินที่หายไปกว่าแสนบาท ทั้งที่พ่อยืนยันว่าใช้บัตร ATM ไปกดถอนที่ตู้มาใช้จ่ายแค่เดือนละ 3,000 บาท แต่เมื่อไปสอบถามกับทางธนาคารแจ้งว่ามีการเบิกถอนเงินผ่านบัตร ATM
แต่พอขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ตู้ ATM ที่ถูกถอนเงินออก ทางธนาคารบอกว่าเจ้าของบัญชีต้องไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน แล้วนำใบแจ้งความกลับมาส่งให้ทางธนาคารเพื่อจะส่งเรื่องไปยังสำนักงานใหญ่ในการอนุมัติตรวจสอบกล้องวงจรปิด น.ส.อัมพาพรทำตามที่ทางธนาคารแนะนำ โดยได้ไปแจ้งความที่ สภ.ปะคำ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุที่พ่อไปกดเงิน ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2566 จากนั้นนำใบแจ้งความกลับไปส่งให้ธนาคารที่ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ที่พ่อเปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ผ่านไปเกือบ 8 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อมูลจากทาง พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ เถียรกิตติพงศ์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สถานีตำรวจภูธร (สภ.) ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่ง ผกก.ให้ข้อมูลว่าตอนนี้ทางพนักงานสอบสวนยังรอหลักฐานภาพกล้องโทรทัศน์วงจรปิดจากทางธนาคาร ถ้ามีหลักฐานทางวงจรปิดส่งมาให้ทางตำรวจแล้วก็จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนไปกดถอนเงิน ก็อยู่ระหว่างรอตรวจสอบอีกหลายอย่าง
ส่วนกรณีที่ล่าช้าเนื่องจากทางธนาคารส่งหลักฐานกล้องวงจรปิดไปผิดที่แทนที่จะส่งมาที่ สภ.ปะคำ แต่กลับส่งไปที่ สภ.ระนอง ซึ่งไม่ทราบว่าที่ส่งผิด สภ.เพราะสาเหตุอะไร อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนกำลังประสานกับทาง สภ.ระนอง เพื่อให้ดำเนินการส่งหลักฐานวงจรปิดดังกล่าวมาให้ ซึ่งหากได้หลักฐานมาทางตำรวจ สภ.ปะคำจะเร่งดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนทันที
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านผู้เสียหายอีกครั้งเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้พบกับนายเลื่อน พลนางรอง ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคาร ได้นำเอกสารหลักฐานรายการเดินบัญชีฝากถอนที่ขอจากทางธนาคารมาให้ดู พบว่ามีรายการเงินโอนเข้าเฉลี่ยเดือนละ 5,000-10,000 บาท ซึ่งยืนยันว่าลูกสาวเป็นคนโอนให้ ทั้งนี้มีรายการถอนเงินออกผ่านบัตร ATM มากกว่า 1 ครั้งต่อเดือน แต่ยืนยันว่าไปกดถอนมาใช้แค่เดือนละครั้งเท่านั้นและกดด้วยตัวเองไม่เคยฝากใครไปกด เป็นลักษณะนี้มาประมาณ 2 ปีแล้ว
พอเริ่มมีความผิดปกติตนจึงลองใช้บัตร ATM ไปถอนเงินออก 1 ครั้ง แต่พอวันหลังลองไปกดถอนอีกกลับถอนไม่ได้ ที่ผ่านมาเคยไปถามทางธนาคารให้ช่วยตรวจสอบเขาบอกว่ามีการถอนเงินผ่านบัตร ATM จริง แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนถอนครั้งที่สอง จากสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนตัวสงสัยว่าจะมีการทำบัตร ATM ได้หลายใบตามที่เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่า 1 บัญชีสามารถทำได้ถึง 5 ใบจริงหรือไม่ ซึ่งตัวเองไม่เคยรู้มาก่อน ก็งงเพราะบัตร ATM อยู่กับตัวเองตลอดแต่เงินหายไป แต่ที่ผ่านมาทางธนาคารไม่เคยแจ้งอะไรเลย ส่วนตัวเองก็เพิ่งจะมาแจ้งลูกสาวให้ทราบเรื่อง
ช่วงเดือน พ.ค. 2566 ตนเคยไปให้เจ้าหน้าที่ธนาคารทำแอปฯ ในมือถือให้เพื่อแจ้งยอดเงินเข้าเงินออกก็เสียเงินค่าบริการด้วย แต่ไม่เห็นมีการแจ้งเงินเข้าออกเลยและตนไม่เคยทำธุรกรรมอะไรผ่านแอปฯ เลย จากกรณีที่เกิดขึ้นอยากให้ทางธนาคาร และตำรวจเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ด้วย และอยากได้เงินที่ถูกถอนไปคืนด้วย