ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยา ร่วมอำเภอบางละมุงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงปัญหาน้ำเสียไหลลงทะเลหลังโลกออนไลน์แห่แชร์ภาพ ยันเป็นน้ำฝนไหลล้นท่อ ส่วนน้ำทะเลพัทยายังใสสะอาดลงเล่นได้ทุกวัน
วันนี้ ( 5 ก.พ.) นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง และนายบรรลือ กุลละวริชย์ ประธานสภาเมืองพัทยา ,นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา,เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีน้ำเสียไหบลงทะเลบริเวณชายหาดวงศ์อมาตย์ ซอยนาเกลือ 16 หลังมีคลิปเผยแพร่ในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา
นายปรเมศวร์ เผยว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการบูรณาการทำงานร่วมกับ อ.บางละมุง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังมีภาพการปล่อยน้ำเสียลงทะเลจนทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเกิดความกังวล อีกทั้งส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา
“ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีฝนตกในเมืองพัทยาเมื่อวันที่ 30 ม.ค. และน้ำฝนได้ไหลเข้าสู่ระบบบ่อสูบซอยนาเกลือ 16 จนทำให้มีน้ำเจือจางส่วนเกินล้นสันฝายไหลไปตามท่อระบายลงสู่ทะเล และอีกจุดในตำแหน่งใกล้กันที่แรงดันน้ำได้ดันฝาปิดบ่อพักให้เปิดออกมา ซึ่งในส่วนของลักษณะของน้ำที่ปรากฏไม่ใช่เป็นน้ำเสียสีดำเข้มข้น แต่เป็นเป็นสีครีมขาว ที่อาจเกิดจาการสะสมของตะกอนตกค้าง ที่ไหลรวมกับน้ำฝน”
นอกจากนั้นจากการตรวจสอบยังพบว่า ในช่วงฤดูหนาว จะมีทรายเต็มท่อรวบรวมน้ำเสียในช่วงน้ำทะเลขึ้นซึ่งจะซัดทรายไหลลงท่อจนทำให้ท่อเกิดการอุดตัน และน้ำไหลไม่สะดวกและเมื่อมีฝนตกจึงทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ไหลอยู่ในเส้น ระบายไม่ทันและอาจล้นออกจากจุดระบายน้ำฝน (บ่อ CSO) ที่ชายหาดท้ายซอยนาเกลือ 16 และท้ายซอยนาเกลือ 18 บริเวณโขดหิน
“ เบื้องต้นในการแก้ไขปัญหา เจ้าหน้าที่ได้ทำการลอกตะกอนทรายเพื่อให้น้ำไหลสะดวก พร้อมล็อคฝาท่อระบายน้ำให้แน่นป้องกัน ไม่ให้ทรายทะเลไหลลงอุดตันท่อ และไม่ให้แรงดันน้ำตามแนวเส้นท่อดันออกได้”
ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาแบบถาวรนั้น นายปรเมศวร์ เผยว่าเมืองพัทยา จะได้ทำการศึกษาออกแบบเพิ่มเติมระบบสูบน้ำฝนออกจากพื้นที่ไปสู่ถนนพัทยานา และปรับปรุงระบบระบายน้ำเสียที่มีสภาพทรุดโทรม ทั้งแนวหาดวงศ์อมาตย์และหาดพิงผา หลังปัจจุบันพบว่าในพื้นที่มีปริมาณน้ำเสียและน้ำฝนเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะระบบรวบรวมน้ำเสียบริเวณหาดวงศ์อมาตย์ ที่มีสภาพเก่าและมีศักยภาพไม่เพียงพอ เนื่องจากมีการก่อสร้างอาคารสูงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“ สำหรับระบบรวบรวมน้ำเสียหาดวงศ์อมาตย์ เป็นท่อระบายน้ำเสียไฟเบอร์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.20 เมตร วางตามแนวหาด โดยรวบรวมน้ำเสียจากบริเวณต้นหาดด้านทิศเหนือด้วยแรงโน้มถ่วงมาทางทิศใต้ลงสู่บ่อสูบ ส่งน้ำเสียซอยนาเกลือ 18 เพื่อสูบส่งน้ำเสียสู่ถนนพัทยานาเกลือ ลงไปตามแนวชายหาดพัทยา สู่บ่อสูบ PS7 บริเวณปากซอย Walking Street ซึ่งระบบรวบรวมน้ำของเมืองพัทยาส่วนใหญ่มักเป็นระบบรวมน้ำเสียร่วมกับน้ำฝน ทำให้เมื่อยามฝนตกน้ำฝนจะรวมกับน้ำเสียทำให้เจือจางเมื่อระดับพ้นสันฝายที่กำหนดก็จะปล่อยให้มีการระบายลงทะเล” นายปรเมศวร์ กล่าว
ด้าน นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง เผยถึงการควบคุมการปล่อยน้ำเสียลงทะเลของผู้ประกอบการว่า ปัจจุบันมีการกฎหมายควบคุมแล้วและสถานประกอบการ จะต้องมีการบำบัดน้ำเสียก่อนส่งเข้าสู่ท่อรวม
“ จากการลงพื้นที่ร่วมกับเมืองพัทยา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ก็เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ว่าน้ำทะเลของพัทยายังใสสะอาด สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนเล่นน้ำทะเลได้ทุกวัน และจากการตรวจสอบภาพที่มีการเผยแพร่ในโลกสังคมออนไลน์ก็พบว่าเป็นช่วงที่มีฝนตกหนักและมีน้ำทะลักลงสู่ทะเล”
นายอำเภอบางละมุง ยังเผยอีกว่าในเบื้องต้นได้ฝากถึงนายกเมืองพัทยาและทีมเจ้าหน้าที่เมืองพัทยาไปแล้ว หากมีฝนตกหนักลงมาอีกให้ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นคือน้ำที่ไหลมาจากน้ำฝนไม่ใช้มาจากการปล่อยน้ำเสียของสถานประกอบการต่าง ๆ แต่อย่างใด