อุทัยธานี - ความสงสารเป็นเหตุ เข้าตำราชาวนากับงูเห่าเป๊ะ..หนุ่มนักดนตรีร้องสื่อ ถูกสาวแสบหลอกยืมรถ จยย.อ้างไปรับลูกป่วย แต่กลับนำรถไปจำนำ ซ้ำแจ้งความคดีไม่คืบกว่า 2 เดือน ตำรวจบอกยังไม่ว่าง-มีคดีอื่นที่ต้องทำอีกเยอะ
วันนี้ (5 ก.พ. 67) ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านรายหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองนางนวล อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ว่าถูกหญิงสาวคนพื้นที่เดียวกันหลอกขอยืมรถจักรยานยนต์ขี่ไปรับลูก แต่กลับนำรถไปจำนำ ซ้ำแจ้งความดำเนินคดีก็ไม่คืบหน้า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตอบกลับมาว่ายังไม่ว่างมีคดีอื่นที่ต้องทำอีกเยอะ พยายามติดตามมากว่า 2 เดือน แต่ก็ไร้ความหวังว่าจะได้รถกลับคืนมา จึงตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊กระบายความในใจ และขอใช้พื้นที่ร้องสื่อเพื่อขอความช่วยเหลือ
สอบถามผู้โพสต์ นายวรวุฒิ มูลเมือง อายุ 29 ปี เจ้าของวงดนตรี วรวุฒิ มิวสิค ที่บ้านพักในพื้นที่หมู่ 1 ต.หนองนางนวล อ.หนองฉาง ซึ่งได้พาไปพบกับพ่อของตนเอง คือ นายประสิทธิ์ มูลเมือง อายุ 58 ปี ที่เป็นคนให้ยืมรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวแก่หญิงสาวรายนี้ไป
นายประสิทธิ์เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา มีหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งรู้จักชื่อว่า ตุ๊ก หรือ น.ส.วิจิตรา อายุประมาณ 30 กว่าปี มีบ้านอยู่แถววัดหัวเมือง ต.อุทัยเก่า อ.หนองฉาง ซึ่งเคยมาเที่ยวร้องเพลงกับวงดนตรีของลูกชายตนอยู่ระยะหนึ่ง
วันนั้นนางสาวตุ๊กมาที่บ้านแล้วบอกกับตนเองว่า..ขอยืมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อเวฟ 110 I สีขาวม่วง หมายเลขทะเบียน กษษ 562 ปราจีนบุรี เพื่อจะไปรับลูกที่จังหวัดชัยนาท โดยอ้างว่าลูกกำลังป่วยอยู่ ซึ่งตอนนั้นตนไม่ได้คิดอะไรก็ให้ยืมไป เพราะเคยมายืมก่อนหน้านี้แล้ว 1 ครั้งก็ไม่ได้เกิดปัญหาอะไร
แต่คราวนี้เอารถไปแล้วกลับเงียบหายไม่เอามาคืน โทรศัพท์ติดต่อไปก็ไม่รับสาย มีเพียงหญิงรายหนึ่งซึ่งอ้างว่าเป็นพี่สะใภ้ของ น.ส.วิจิตรา โทรศัพท์กลับมาบอกว่าจะนำรถมาคืนให้ โดยบอกว่า น.ส.วิจิตรา ได้นำรถจักรยานยนต์ไปจำนำ จะนำเงินไปไถ่คืนให้ในวันที่ 27 พ.ย. 66 ตนจึงตัดสินใจเข้าไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองฉาง เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 66 เวลา 19.13 น. เพื่อเป็นหลักฐานว่าหากวันที่ 27 พ.ย. 66 น.ส.วิจิตราไม่นำรถมาคืนจะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังจากนั้นมาคดีก็ไม่คืบหน้า โทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับเรื่องแจ้งความไว้ก็ได้คำตอบเพียงว่า..ยังไม่ว่างมีคดีอื่นที่ต้องทำอีกเยอะ จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามคดีเพราะอยากได้รถกลับคืนมา และจะขอเอาเรื่องกับ น.ส.วิจิตรา ให้ถึงที่สุดด้วย ซึ่งรถจักรยานยนต์คันนี้ตอนที่ซื้อมาก็มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 40,000-50,000 บาท
ด้านนายวรวุฒิ ผู้เป็นลูกชาย เปิดเผยว่า ตอนนี้อยากได้รถคืนมากเพราะนานกว่า 2 เดือนแล้ว และทั้งๆ ที่รู้บ้านคนที่นำรถจักรยานยนต์ของตนไปจำนำ แต่แจ้งความแล้วก็ยังไม่มีความหมาย ได้คำตอบแค่เพียงว่าให้รออย่างเดียว ซึ่งในตอนหลังก็มาทราบเรื่องเพิ่มเติมว่า น.ส.วิจิตรามีคดีคล้ายกับที่ตนเจออยู่หลายคดี และคาดว่าเป้าหมายหลักของ น.ส.วิจิตรานั้นมักจะชอบเข้าไปอยู่ตามกลุ่มวงดนตรีเครื่องแห่แบบนี้เสมอ โดยมีวงดนตรีในอำเภอหนองฉางเคยถูกหญิงรายนี้แอบอ้างว่าเป็นคนในวง ก่อนไปรับงานและรับเงินค่าจ้างมาโดยที่เจ้าของวงดนตรีดังกล่าวไม่รู้เรื่องอีกด้วย
“นี่รู้สึกน้อยใจในการติดตามดำเนินคดีในครั้งนี้มาก เพราะรู้สึกว่าครอบครัวได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เป็นธรรมเท่าที่ควร และไม่คิดว่าความใจดีความสงสารของครอบครัวผมนั้นจะนำพามาซึ่งความเดือดร้อนแบบนี้”
