สระแก้ว - เฒ่าวัย 74 ปีคิดรวยทางลัด ขนบุหรี่เถื่อนฝั่งกัมพูชาหวังนำมาปล่อยขายในไทยเป็นทุนเดินทางกลับไปเล่นพนันในบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต แต่ไม่รอดสายตาเจ้าหน้าที่ถูกรวบคาด่านชายแดนอรัญประเทศ คาดค่าปรับสรรพสามิตสูงถึง 2 แสนบาท
วันนี้ (3 ก.พ.) พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ ผู้บังคับการชุดควบคุม กรมทหารพรานที่ 12 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 12 (ชค. ทพ.12 ฉก.ร.12) ได้สั่งการให้ พ.ต.อัศวิน เสาทอง ผบ.ร้อย ทพ.1201 (ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201) ประสานความร่วมมือไปยัง พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว และ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.สระแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจังหวัดสระแก้ว จับกุมนายสุพล คำหงส์ อายุ 74 ปี ชาว จ.ราชบุรี ไปทำการสอบสวนที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ยึดของกลางบุหรี่เถื่อนทั้งของไทยและต่างชาติ จำนวน 270ทซอง หรือ 27 คอตตอนที่ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อคลุมและกระเป๋าเป้สีดำ
การจับกุมดังกล่าวเป็นผลจากการที่เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังร่วมกันตั้งจุดตรวจค้นป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ตามนโยบายสกัดเข้มยาเสพติดตามแนวชายแดนของ พล.ต.เทพพิทักษ์ นิมิตร ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ที่ด่านตรวจร่วมยาเสพติด จุดตรวจ จต.อ.20 ร้อย ทพ.1201 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ
กระทั่งพบชายสูงวัยต้องสงสัยสวมเสื้อคลุมสีเทา นุ่งกางเกงขายาวสีดำเดินสะพายกระเป๋าสะพายสีดำจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งเมื่อถึงจุดตรวจร่วม ได้แสดงท่าทีพิรุธและเมื่อเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบจนพบของกลางจำนวนดังกล่าว
แต่ผู้ต้องหาได้อ้างว่าเดินทางมาจาก จ.ราชบุรี โดยขบวนรถไฟเพื่อมาเที่ยวในบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต และขากลับได้ซื้อบุหรี่เพื่อนำกลับไปสูบเองและฝากเพื่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากเป็นการซุกซ่อนบุหรี่จำนวนมาก
อีกทั้งจากการสอบถามครั้งแรก ผู้ต้องหาบอกว่าตนเองไม่สูบบุหรี่ แต่เมื่อสอบถามอีกครั้งกลับบอกว่าซื้อไปสูบเองและฝากเพื่อน จึงเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะเดินทางมาเล่นการพนันในบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต และเมื่อเล่นเสียจึงหาเงินด้วยวิธีผิดๆ ลักลอบนำบุหรี่เถื่อนเข้ามาขายในประเทศไทยเพื่อหาเงินทุนกลับไปเล่นพนันต่อ
จึงส่งตัวให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิต จ.สระแก้ว สาขาอรัญประเทศ ดำเนินคดีตามกฎหมายสรรพสามิตต่อไป โดยมีรายงานว่าบุหรี่ที่จับกุมได้หากคิดเป็นเงินค่าปรับแล้วจะอยู่ที่ ประมาณ 2 แสนบาท
