xs
xsm
sm
md
lg

รวบยกแก๊งทีมอุ้มฆ่าหนุ่ม รง.ล้อยางมัดมือเท้าทิ้งศพมอเตอร์เวย์สุดเลือดเย็น ผู้ก่อเหตุพาเมียคนตายมาดูศพโดยไม่สะทกสะท้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฉะเชิงเทรา - รวบยกแก๊งอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงานล้อยางมัดมือเท้ายิงหัวทิ้งศพริมถนนมอเตอร์เวย์ พบหัวโจกเป็นนักแต่งรถ จยย. รับจ๊อบขับรถตู้ทึบขนส่งสินค้าออนไลน์ ตีเนียนพาเมียผู้ตายมาดูศพโดยไม่สะทกสะท้าน อ้างเหตุลงมือเพราะปัญหาส่วนตัว ตำรวจตั้งข้อหาหนักถึงขั้นประหารชีวิต 

วันนี้ (2 ก.พ.) พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบก.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ ยาคุ้มภัย นวท.(สบ.5) ศพฐ.2 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายกิตติโชติ แพไพรมูล หรือช่างกิต บางบ่อ อายุ 37 ปี หลังก่อเหตุอุ้มฆ่า นายธนาสันต์ เตอั้น อายุ 33 ปี หนุ่มโรงงานผลิตยางรถยนต์ในนิคมอมตะนคร เฟส 6
 
โดยมีผู้พบศพในสภาพถูกมัดมือ มัดเท้า และถูกอาวุธปืนยิงที่ศีรษะ ซึ่งศพถูกนำมาทิ้งไว้ที่ริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์สาย 7 อ.บางปะกง เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่ง นายกิตติโชติ แพไพรมูล หรือช่างกิต บางบ่อ ได้อ้างตัวว่าเป็นพี่ชายของภรรยาผู้เสียชีวิต และยังได้เดินทางมาดูศพที่จุดเกิดเหตุพร้อมด้วย น.ส.วรรณพร หลักแหลม อายุ 33 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่สืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีหลายสิบนาย


นอกจากนั้น ยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 4 คนที่ติดต่อขอมอบตัวในวันนี้ ประกอบด้วย นายนันทพัทธ์ หรือโอ๊ต นายปานเทพ (สงวนนามสกุล) นายสุขสงกรานต์ (สงวนนามสกุล) และ น.ส.อภิสรา (สงวนนามสกุล) หลังเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมช่างกิต ได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ เมื่อคืนวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา

โดยผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่ายังให้การไม่ชัดเจนและไม่ตรงกัน เจ้าหน้าที่จึงพาไปชี้จุดที่นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งไว้ในคลองส่งน้ำเขตรอยต่อระหว่าง อ.บางบ่อ และบางปู จ.สมุทรปราการ

ขณะที่ นายกิตติโชติ หรือช่างกิต อ้างถึงมูลเหตุจูงใจที่ต้องฆ่าว่าเกิดจากเรื่องส่วนตัว ทั้งที่ยังไม่เคยรู้จักกับผู้ตายมาก่อน และยังบอกอีกว่าในวันเกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ มิราจ หมายเลขทะเบียน ฆห 2204 กรุงเทพมหานคร ตามมาประกบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายที่ขี่ออกมาจากบ้านเพื่อเดินทางไปทำงาน

โดยมีผู้ร่วมก่อเหตุนั่งมาในรถด้วย ก่อนจะขับรถยนต์เก๋งปาดหน้ารถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต และใช้อาวุธปืนบังคับให้ขึ้นรถมาด้วยกัน และได้ให้ 1 ในผู้ร่วมแก๊งขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายไป ส่วนคนที่เหลือได้นั่งรถเข้ามาที่อู่ของตนด้วยกันเพื่อร่วมเจรจากับผู้ตาย ก่อนจะช่วยกันมัดมือมัดเท้าและพาขึ้นรถขับมาริมถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 และใช้อาวุธปืนจ่อยิง และได้นำศพมาทิ้งไว้หลัก กม.ที่ 41+100


เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้ง 8 ข้อกล่าวหาหนัก นายกิตติโชติ และพวกคือ 1.ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยมีหรือใช้อาวุธปืน 2.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เนื่องจากพบภาพจากกล้องวงจรปิดว่าผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์มาดูเส้นทางไว้ล่วงหน้า 6 วันก่อนที่จะมีการลงมือก่อเหตุ

3.ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย 4.หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย 5.ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายโดยใช้กำลังประทุษร้าย

6.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 7.พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและความจำเป็นเร่งด่วนและโดยไม่มีใบอนุญาต 8.ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน โดยอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต


ขณะที่ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนที่เดินทางมาเข้ามอบตัวในวันนี้ ได้ยอมรับว่าแต่ละคนนั้นเป็นหนึ่งในตัวละครที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ยังให้การไม่ตรงกันในบางเรื่อง รวมทั้งยังให้การไม่ตรงกันว่าแต่ละคนทำหน้าที่อะไรกันบ้าง จึงต้องสืบสวนขยายผลต่อไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโลกออนไลน์ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเลือดเย็นของช่างกิต ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุที่ได้เดินทางมาดูศพพร้อมภรรยาของผู้เสียชีวิตโดยไม่เกรงกลัวว่าจะถูกตำรวจจับได้ นอกจากนั้น หลายรายยังได้ตั้งข้อสงสัยถึงชนวนเหตุสังหารโหดที่แท้จริงว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่อีกด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น