ระยอง - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เผยสัตว์ทะเลที่พบชายหาดบนเกาะเสม็ด เป็นฉลามวาฬ ที่นักท่องเที่ยวพบที่อ่าวน้อยหน่า คาดหากินเพลินจนเกือบเกยตื้น ขณะนี้ส่ง จนท.ออกติดตามแล้วแต่ยังไม่พบ
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (1 ก.พ.) นายนิทัศน์ นุ่นสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง ได้ออกมาเปิดเผยว่าคลิปที่ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์จากการตรวจสอบพบว่า เป็นฉลามวาฬที่นักท่องเที่ยวพบที่อ่าวน้อยหน่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา และได้เก็บคลิปไว้ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่ไม่อนุญาตให้มีการจอดเรือรับส่งนักท่องเที่ยว
และหลังได้รับแจ้งว่ามีการพบ 1 ใน 4 สัตว์ทะเลที่ได้รับการประกาศให้เป็นสัตว์สงวนของไทย ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานเเห่งชาติทางทะเลที่ 4 จ.ตราด ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกติดตามด้วยการเดินเรือสำรวจเเละใช้โดรนบิน รวมทั้งสอบถามชาวประมงในพื้นที่จนทราบว่า สัตว์ทะเลที่นักท่องเที่ยวพบที่อ่าวน้อยหน่า เป็นฉลามวาฬ
“จากการสอบถามนักวิชาการ และส่งคลิปให้ดูได้รับแจ้งในเบื้องต้นว่า จากลักษณะการว่าย ครีบ และหางมีความปกติ และอยู่ในภาวะสมบูรณ์ จึงคาดว่าเป็นฉลามวาฬ ที่น่าจะหากินเพลินจนว่ายเข้าใกล้ฝั่งแบบที่ไม่เคยพบมาก่อน และยังมีการคาดการณ์ว่า ฉลามวาฬ ตัวนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด”
ทั้งนี้ ฉลามวาฬเป็นสัตว์ป่าสงวน ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ พ.ศ.2562 และเคยมีข้อมูลการพบเจอ ฉลามวาฬ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2563 ที่ร่องน้ำกึ่งกลางระหว่างเขาแหลมหญ้า กับเกาะเสม็ด
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ยังเผยอีกว่า การพบฉลามวาฬ ใกล้ฝั่งเช่นนี้ ต้องขอบคุณผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว และชาวบ้านที่ให้ความร่วมมือในการปรับปรุงพื้นที่ ทั้งเรื่องของท่าจอดเรือ และอื่นๆ จนทำให้ความสมบูรณ์ทางทะเลกลับคืนมา
โดยขณะนี้ได้มีการกำหนดท่าจอดเรือหลักสำหรับรับส่งนักท่องเที่ยวที่เกาะเสม็ด ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ จำนวน 3 ท่า คือ สะพาน อบจ.ระยอง (สะพานนางยักษ์) อ่าววงเดือน และที่อ่าวพร้าว
ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะเพิ่มพื้นที่จอดเรือที่หน้าอ่าวต่างๆ ยกเว้นอ่าวกวาง และอ่าวน้อยหน่า
ขณะที่หาดทรายแก้ว จะเปิดจุดจอดเรือเฉพาะตรงกลางประมาณ 10 เมตร ส่วน 2 ฝั่งจากช่องที่กำหนดให้เรือจอดห่างออกไปอีกฝั่งละ 400 เมตร ไม่อนุญาตให้ทำการจอดเรือเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำจึงเกรงว่าจะได้รับอันตราย
