ราชบุรี - ตร.บ้านโป่ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และหน่วยเก็บกู้ระเบิด เข้าตรวจนับพลุ ดอกไม้ไฟ ประทัดในโกดัง ภายหลังปลัดจังหวัดเข้าตรวจสอบใบอนุญาตไม่ตรง
วันนี้ (30 ม.ค.) พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงศ์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นายไกรธวัช ทินโสม ปลัดจังหวัดราชบุรี นายเกียรติศักดิ์ หอมเย็นใจ นายอำเภอบ้านโป่ง พร้อมกำลังตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ภ.จว.ราชบุรี เข้าตรวจนับพลุ ดอกไม้ไฟ ประทัดภายในโกดังไม่มีชื่อ ตั้งอยู่บ้านโป่งยอ ริมถนนโป่งยอ-ท่ามะกา หมู่ 13 ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
หลังชาวบ้านได้เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงค์ธรรมบ้านโป่ง ทางศูนย์ดำรงค์ธรรมบ้านโป่งจึงรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ จึงได้สั่งการให้ปลัดจังหวัดอำเภอบ้านโป่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง ฝ่ายปกครอง เข้าไปตรวจสอบที่โกดังดังกล่าวเมื่อเย็นวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา พบว่าใบอนุญาตไม่ตรง เนื่องจากผู้ดูแลนำใบอนุญาตของ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มาแสดง ทางปลัดจังหวัดจึงนำกุญแจมาทำการล็อกโกดังดังกล่าว พร้อมให้ทางผู้ดูแลนำใบอนุญาตที่ถูกต้องมาแสดง แต่ไม่สามารถนำมาแสดงได้
ต่อมา วันนี้ทางปลัดจังหวัดได้มอบหมายให้นายอำเภอ พร้อมฝ่ายปกครอง ผกก.สภ.บ้านโป่ง เข้าไปทำการตรวจนับพลุ ดอกไม้ไฟซึ่งการตรวจนับทั้ง 2 โกดัง มีนายปรีชา ทรัพย์เพ็ญภพ อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลโกดังได้พาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจนับ ซึ่งภายในโกดังที่ 2 พบวัตถุจำพวกมีพลุและดอกไม้ไฟ บรรจุอยู่ในลังกระดาษเป็นจำนวนมาก และโกดังที่ 1 พบประทัด มีตั้งแต่ 500 นัด จนถึง 10,000 นัด บรรจุอยู่ในลังกระดาษเกือบ 300 ลัง รวมดอกไม้ไฟ พลุ และประทัดทั้ง 2 โกดังที่พบทั้งหมด 2,125 ลัง ซึ่งเป็นของนำเข้าจากประเทศจีน
พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงศ์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากมีชาวบ้านโป่งยอ ร้องมาที่ศูนย์ดำรงธรรมบ้านโป่ง ว่า มีการนำเอาพลุดอกไม้ไฟมาเก็บที่โกดังดังกล่าว เกรงว่าจะได้รับอันตราย ต่อมา ทางผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้สั่งการให้ปลัดจังหวัดราชบุรี นายอำเภอบ้านโป่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง เข้าไปขอตรวจสอบที่โกดังดังกล่าว พบว่า นายปรีชา เป็นคนดูแลโกดัง จึงขอเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งนายปรีชา ได้อนุญาตให้เข้าไปตรวจสอบพร้อมนำพาเข้าไป และนำใบอนุญาตสถานที่เก็บมาให้ดู ที่ใบอนุญาตนั้นระบุเป็นพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาดูแล้วเห็นว่าเป็นใบอนุญาตไม่ถูกต้อง ในวันนี้จึงได้เข้าไปตรวจยึดพลุ ดอกไม้ไฟ และประทัดทั้งหมด
โดยมีนายปรีชา ผู้ดูแลสถานที่ได้นำเจ้าหน้าที่พาเข้าไปตรวจยึดทั้งหมด และจะมีการขยายผลหาผู้ประกอบการมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนของกลางได้ทำการเก็บรักษาไว้ที่โกดังใส่กุญแจประตูปิดล็อก โดยมีกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง ผลัดเปลี่ยนกันมาค่อยเฝ้าโกดัง เพื่อรอจนกว่าทางศาลจะมีคำพิพากษาออกมา