ศูนย์ข่าวศรีราชา - ส.ส.ชลบุรี แจงเหตุรัฐขอความร่วมมือชาวไร่อ้อยหยุดเผาก่อนตัดไม่เป็นผล เพราะปัญหาขาดแคลนแรงงาน-เร่งส่งเข้าโรงหีบก่อนหมดฤดูกาล วอนผู้เดือดร้อนเห็นใจซึ่งกันและกัน ชี้ระยะเผาแค่ 7-10 วัน ส่วนโครงการหมู่บ้านอยู่ในพื้นที่เกษตร
จากกรณีที่ชาวบ้านในโครงการบ้านอยู่สบาย ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้มีการร้องเรียนสื่อมวลชนหลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการเผาไร่อ้อยของเกษตรกรในพื้นที่ จนทำให้มีเขม่าไฟสีดำ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หิมะดำ” ตกเข้าบ้านเรือนและเสื้อผ้า รวมทั้งสร้างปัญหามลพิษ แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ไขนั้น
วันนี้ (29 ม.ค.) นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง ส.ส.ชลบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ออกมาเปิดเผยถึงนโยบายของรัฐบาลว่า ที่ผ่านมาได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดออกขายเพื่อที่จะได้ราคาดี แต่สาเหตุที่ยังพบว่าเกษตรกรในพื้นที่ยังใช้วิธีการเผาไร่อ้อยแทนการตัดสด เพราะมีปัญหาเรื่องขาดแคลนแรงงาน
เนื่องจากแรงงานไทยไม่นิยมทำอาชีพรับจ้างตัดอ้อยเหมือนในอดีต จนต้องว่าจ้างแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทำแทน ซึ่งแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านมักจะใช้วิธีการเผาอ้อยก่อนตัดเพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์เลื้อยคลาน และใบอ้อยบาด
ส่วนการใช้รถตัดอ้อยมีปัญหาทั้งในเรื่องพื้นที่ซึ่งหากพื้นที่ทำไร่เป็นหินอาจทำให้ใบมีดได้รับความเสียหาย และต้องเปลี่ยนใบมีดที่มีราคาถึงหลักหมื่นบาท ซึ่งทำให้ชาวสวนไม่นิยมทำกันเพราะหากมีปัญหาเสียเวลาจนอาจทำให้ตัดอ้อยไม่ทันตามเวลา
“จากที่เคยเป็นชาวไร่อ้อยมาถึง 52 ปี ทำให้ทราบว่าชาวสวนมีความจำเป็นต้องเผาไร่ก่อนตัดเพื่อประหยัดเวลาและจะทำให้สามารถตัดอ้อยส่งโรงงานโรงงานได้ทันก่อนเวลาการปิดหีบในวันที่ 15 มี.ค.ของทุกปี ขณะที่ฤดูตัดอ้อยจะอยู่ในช่วงปลายเดือน ธ.ค.- ก.พ.เท่านั้น และชาวสวนจะใช้เวลาในการเผาประมาณ 7 ถึง 10 วัน จึงอยากให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเขม่าดำจากการเผาอ้อยเห็นใจซึ่งกันและกันเพราะโครงการหมู่บ้านเข้ามาอยู่ในพื้นที่เกษตรเช่นกัน” ส.ส.ชลบุรี กล่าว