xs
xsm
sm
md
lg

กาฬสินธุ์เผาปลาเตายักษ์1ตันแจกงานประเพณีกินปลาพาเที่ยวหัวหินถิ่นลำปาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาฬสินธุ์-อบจ.กาฬสินธุ์ร่วมกับอบต.หัวหิน อำเภอห้วยเม็ก จัดใหญ่งานประเพณีกินปลา พาเที่ยวหัวหิน ถิ่นลำปาว ประจำปี 2567 เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชน
พร้อมตั้งเตายักษ์เผาปลานิลเขื่อนลำปาว 1 ตัน หรือ 1,000 ตัว เสิร์ฟพร้อมกุ้งก้ามกราม และกุ้งแม่น้ำรวมกว่า 300 กิโลกรัม แจกนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่มาร่วมงานกินอย่างเต็มอิ่ม



วันนี้( 26 ม.ค.) ที่บริเวณท้ายเขื่อนลำปาว บ้านโคกกลางเหนือ หมู่ 5 ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดงานเทศกาลกินปลา พาเที่ยวหัวหิน ถิ่นลำปาว ประจำปี 2567 ซึ่ง อบจ.กาฬสินธุ์ร่วมกับอบต.หัวหิน อำเภอห้วยเม็ก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชน โดยมี พ.จ.ต.สำเนียง หวังเจริญ ท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์ นายยุทธนา คงสมมาตย์ ปลัดอาวุโสอำเภอห้วยเม็ก นายอัครนันท์ ปัญญาเจริญโรจน์ นายก อบต.หัวหิน นายนิยม โยหาสิทธิ์ นายก อบต.หนองแวง อ.สมเด็จ พร้อมด้วยนายบุญธง เภาเจริญ ประมง จ.กาฬสินธุ์ ส่วนราชการ ผู้นำชุมชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.กาฬสินธุ์ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลในกระชัง และเลี้ยงกุ้งก้ามกราม ร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายอัครนันท์ ปัญญาเจริญโรจน์ นายก อบต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การจัดเทศกาลกินปลาฯ ครั้งนี้ อบต.หัวหินได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก อบจ.กาฬสินธุ์ โดยนางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ รวมทั้งชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในพื้นที่ 8 หมู่บ้าน โดยจัดขึ้นต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นจัดขึ้นในวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 เป็นการจัดงานในรอบ 3 ปีหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และได้รับการตอบรับจากชุมชนและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดียิ่ง


การจัดงานจึงจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ วันที่ 25-26 มกราคม 2567 เพื่อส่งเสริมกลุ่มผู้เลี้ยงปลานิลในกระชัง กลุ่มเลี้ยงกุ้งก้ามกราม และกลุ่มผู้ผลิตสินค้าโอทอปอื่นๆ ในตำบลหัวหิน ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เป็นการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายกุ้งก้ามกรามและปลานิลในกระชังของตำบลหัวหิน ถือเป็นซอฟพาวเวอร์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอีกอย่างหนึ่งของ จ.กาฬสินธุ์

ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวมาชม ชิม ช็อป และม่วนซื่นตลอด 2 วันอย่างจุใจ เช่น การจัดนิทรรศการการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม การเลี้ยงปลานิลในกระชัง, การแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารจากกุ้งก้ามกราม และปลานิลในกระชัง, นิทรรศการวิถีคนท้ายเขื่อน กับการประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้งก้ามกราม-ปลานิล, ชม ชิม ช็อป กับสินค้าโอทอป ของดีตำบลหัวหิน, สัมมนาหัวข้อพัฒนาการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม-ปลานิล เสริมรายได้อย่างยั่งยืน และส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว




นอกจากนี้ ยังมีพิธีทำบุญให้กุ้งก้ามกราม-ปลานิล การแข่งขันพายเรือ ชกมวยเขื่อน ประกวดน้ำจิ้มรสเด็ด โดยเฉพาะที่เป็นไฮไลต์ของการจัดงานประเพณีกินปลา พาเที่ยวหัวหิน ถิ่นลำปาว ครั้งนี้คือ การนำปลานิลในกระชังเขื่อนลำปาว สัตว์เศรษฐกิจขึ้นชื่อของตำบลหัวหินจำนวน 1 ตัน หรือประมาณ 1,000 ตัว มาเผาบนเตาขนาดยักษ์ ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน เสิร์ฟพร้อมกุ้งก้ามกราม และกุ้งแม่น้ำ จากนั้นนำมาแจกจ่ายนักท่องเที่ยว ผู้ร่วมงาน ได้เปิบกันอย่างเต็มอิ่มด้วย

ด้านนางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า งานประเพณีกินปลา พาเที่ยวหัวหิน ถิ่นลำปาว ได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก นอกจากจะสร้างรายได้ให้กับชุมชนและกลุ่มอาชีพต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในตำบลหัวหินอีกด้วย และในอนาคต อบจ.กาฬสินธุ์ จะได้สนับสนุน อบต.หัวหินจัดงานประเพณีกินปลา พาเที่ยวหัวหิน ถิ่นลำปาว เป็นประจำทุกปี เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนของตำบลหัวหินต่อไป


อย่างไรก็ตาม สำหรับการจัดงานเทศกาลที่ผ่านมา ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ของดี ทำให้ผู้คนได้รู้จัก ต.หัวหิน รู้จักปลานิล กุ้ง ที่เลี้ยงที่ ต.หัวหินมากขึ้น ส่งผลให้ในห้วงปีใหม่ 2567 เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลและกุ้งในพื้นที่ ต.หัวหิน จำหน่ายปลานิลและกุ้งจนเกลี้ยงบ่อ จากการเก็บสถิติการจำหน่ายของเกษตรกรผู้เลี้ยงรายย่อย และกลุ่มผู้เลี้ยงปลานิลและกุ้ง (วันที่ 28 ธ.ค.66- 2 ม.ค.67) ยอดจำหน่ายกุ้ง 16,515 กิโลกรัม คิดเป็นเงิน 4,128,760 บาท และจำหน่ายปลานิล 122,000 กิโลกรัม คิดเป็น เงิน 7,808,000 บาท รวมมูลค่าการจำหน่าย(เฉพาะท้วงปีใหม่) 11,936,750 บาท อบต.หัวหินเล็งเห็นความสำคัญของการประชาสัมพันธ์ อย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง ของการประกอบอาชีพเลี้ยงปลานิลในกระชัง การเลี้ยงกุ้ง ก้ามกราม การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากปลาและกุ้ง เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว ของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน


กำลังโหลดความคิดเห็น