ศูนย์ข่าวศรีราชา - สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เตรียมยึดสิงโตหลุดวิ่งในชุมชนเขตบางละมุง จ.ชลบุรี หลังตรวจสอบเลขไมโครชิปไม่ตรง แม้เจ้าของยันซื้อมาถูกต้อง
จากกรณีที่มีชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนสื่อมวลชนหลังพบสิงโตหลุดจากกรงออกมาวิ่งบนถนนในเขตชุมชน ซอยเขามะกอก 13 ม.4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังเพิ่งมีข่าวลูกสิงโตนั่งรถหรูชมวิวเมืองพัทยาไปได้ไม่นาน จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาตรวจสอบในจุดที่ได้รับแจ้ง จนพบสิงโต 2 ตัว อายุประมาณ 10 เดือน ถูกเลี้ยงไว้ในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งผู้ดูแลอ้างว่าสิงโตหลุดออกไปด้านนอกเพราประตูอัตโนมัติขัดข้อง และยังแจ้งต่อสื่อมวลชนว่า เตรียมที่จะขายสิงโตคืนกลับให้เจ้าของฟาร์มในพื้นที่ จ.นครปฐม
จนทำให้ช่วงบ่ายวานนี้ (25 ม.ค.) นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ได้ประสาน พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สวญ.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 พ.ต.ท.พรทรัพย์ สุพร สวป.สภ.ห้วยใหญ่ พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.ตม.จว.ชลบุรี สนธิกำลังเข้าตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว
โดยพบเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว เนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา บริเวณหน้าประตูรั้วบ้านมีรถเก๋งหรูจอดอยู่ 1 คัน ภายในบ้านพบสิงโต 2 ตัว และสุนัขล็อตไวเลอร์ 2 ตัว โดยมี น.ส.สกาย อายุ 28 ปี เจ้าของบ้านที่ยืนยันว่าได้ซื้อสิงโตมาจากฟาร์มกระป๋องสี ไลออน ซู ในพื้นที่ จ.นครปฐม ในราคาตัวละ 500,000 บาท และช่วงที่ซื้อมาทางฟาร์มเป็นผู้นำมาส่งให้ ซึ่งขณะนั้นสิงโตมีอายุได้เพียง 45 วัน โดยได้ทำสัญญาซื้อขายเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2565 และมีหนังสือส่งมอบสิงโตระบุ เป็นเพศผู้ 2 ตัว หมายไมโครชิป 900219001311257 และ 900219001311256 ตามกฎระเบียบของไซเตส
และยังบอกอีกว่าก่อนหน้านี้ได้เลี้ยงไว้ที่ อ.สัตหีบ และเพิ่งจะย้ายมาเลี้ยงที่บ้านหลังนี้ได้ประมาณ 6 เดือน และปัจจุบันเตรียมที่ขายคืนให้เจ้าของฟาร์ม โดยนัดส่งสิงโตคืนในอีก 2 วันข้างหน้า
ส่วนผลการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น พบสิงโตดังกล่าวเป็นเพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 1 ตัว อายุประมาณ 1 ปี ซึ่งไม่ตรงกับเอกสารที่นำมาแสดง โดยหนังสือส่งมอบสิงโตระหว่างฟาร์มเลี้ยงสิงโตกับเจ้าของสิงโต ระบุไว้ว่าตัวผู้ทั้งคู่
นอกจากนี้ ทีมสัตวแพทย์ที่ได้นำเครื่องสแกนหาไมโครชิปไปแสกนในตัวสิงโต พบว่าทั้ง 2 ตัว มีการฝังหมายเลขไมโครชิป แต่ไมโครชิปตรงแค่ตัวเดียว ส่วนอีกตัวไม่ตรงกับหนังสือส่งมอบสิงโต นอกจากนี้ ทั้ง 2 ตัวยังไม่มีการแจ้งครอบครองสัตว์ควบคุมประเภท ก. (สิงโต) ให้ถูกต้องตามระเบียบ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงขอยึดสิงโตด้วยการยิงยาสลบก่อนจะเคลื่อนย้ายไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง (เขาชีโอน) เพื่อรอเจ้าของนำเอกสารตัวจริง มายืนยันอีกครั้ง
โดยนายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เปิดเผยว่า เบื้องต้น สิงโตทั้ง 2 ตัวถูกครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยสิงโตถือเป็นสัตว์ป่าควบคุมประเภท ก. (สิงโต) หรือสัตว์ป่าขนาดใหญ่ ประเภทกินเนื้อ มีความดุร้าย ซึ่งเป็นธรรมชาติของสิงโต
ขณะที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำหนดไว้ว่า ผู้ที่มีสิงโตไว้ในความครอบครองก่อนวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ต้องมาแจ้งให้ข้าราชการกรมอุทยานฯ ภายใน เดือนมีนาคม 2566 แต่กรณีนี้ครอบครองสิงโตมาตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2565 ซึ่งหลังจากประกาศจะต้องแจ้งทันที
"แต่รายนี้ผ่านมาปีกว่าแล้วยังไม่มาแจ้ง จึงถือมีความผิดครอบครองสัตว์ป่าควบคุม ตามกฎหมายพระราชบัญญัติสัตว์ป่าปี 62 มาตรา 19 วรรค 1 จึงต้องทำการยึด แล้วนำไปเก็บไว้ในที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง ซึ่งการดำเนินการเคลื่อนย้ายจะต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าของ โดยจะให้ทีมสัตวแพทย์ เข้าไปยิงยาสลบแล้วขนขึ้นรถไป นอกจากนี้ อยากฝากถึงผู้ที่มีสิงโตไว้ในความครอบครอง ให้มาแจ้งการครอบครองให้ถูกต้อง และจะต้องศึกษาระเบียบการครอบครองให้ถูกต้องด้วย เพื่อความปลอดภัยบุคคลรอบข้าง และ บุคคลใกล้ชิด"
สำหรับ จ.ชลบุรี มีการแจ้งครอบครองสัตว์ควบคุมประเภท ก. (สิงโต) ทั้งหมด 14 ตัว เป็นเลี้ยงเพื่อนันทนาการ 1 คน (แจ้งเลี้ยงไว้ 2 ตัว) เลี้ยงเป็นฟาร์ม 3 แห่ง และสวนสัตว์ 1 แห่ง นอกจากนี้ สิงโตที่ตกเป็นข่าวนั่งรถเบนท์ลีย์ชมวิวในเมืองพัทยา กับสิงโต 2 ตัวนี้ยังไม่มีการแจ้งครอบครองอย่างถูกต้อง และซื้อมาจากฟาร์มเดียวกันในจังหวัดนครปฐม