เชียงใหม่-คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดศูนย์เครื่องฉายรังสีแบบเกลียวหมุนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย รวมทั้งมีจำนวนเครื่องมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับการรักษาผู้ป่วยมะเร็งได้120รายต่อวัน ช่วยลดระยะเวลาการรอคอยจาก 2 เดือน เหลือเพียง 1 เดือน
วันนี้(19 ม.ค.67) ห้องประชุมชั้น 15 อาคารเฉลิมพระบารมี และ หน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยาภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายแพทย์ บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำคณะผู้บริหารโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา เปิดศูนย์เครื่องฉายรังสีแบบเกลียวหมุน พร้อมเปิดตัวเครื่องฉายรังสีรุ่นใหม่ล่าสุด “Radixact X9” ที่มาพร้อมกับระบบ “Synchrony” ช่วยติดตามการเคลื่อนไหวของก้อนมะเร็งในระหว่างการฉายรังสี ทำให้ได้ผลที่มีความแม่นยำสูงสุด ใช้เวลาสั้นลงกว่าเดิม แต่เพิ่มศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถรองรับผู้ป่วยได้มากถึง 120 รายต่อวัน ช่วยลดระยะเวลาการรอคอยการเข้ารับบริการฉายรังสี จากเดิมต้องรอนานกว่า 2 เดือน เหลือเพียง 1 เดือนเท่านั้น
ทั้งนี้นับได้ว่าศูนย์เครื่องฉายรังสีแบบเกลียวหมุน ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดแห่งเดียวในประเทศไทย และมีจำนวนเครื่องฉายรังสีเกลียวหมุนมากที่สุดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับรังสีรักษาเป็นการฉายรังสีเอกซเรย์พลังงานสูงไปที่ตัวผู้ป่วยเพื่อรักษาโรค ส่วนใหญ่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งได้ทั่วทั้งร่างกาย ทั้งเป็นการรักษาหลัก หรือใช้ร่วมกับการผ่าตัดหรือเคมีบำบัดได้ โดยหน่วยรังสีรักษา คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีอาจารย์แพทย์เฉพาะทางด้านรังสีรักษาและมะเร็งวิทยาทั้งหมด 8 ท่าน ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการรักษาโรคมะเร็งในแต่ละชนิดที่แตกต่างกันออกไป ครอบคลุมโรคมะเร็งทุกชนิดที่มีข้อบ่งชี้ต้องรับการฉายรังสี รวมถึงมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอย่างสูงในการฉายรังสีด้วยเทคนิคพิเศษ เช่น รังสีร่วมพิกัดหรือรังสีศัลยกรรม การฉายรังสีทั้งตัว และรังสีระยะใกล้หรือการใส่แร่
โดยจากนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งของผู้ป่วยสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ที่เรียกว่า Cancer Anywhere มะเร็งรักษาได้ทุกที่ ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ที่จะเข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ไม่ต้องใช้ใบส่งตัวจากโรงพยาบาลต้นสังกัด และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการฉายรังสีด้วย
