สระแก้ว -คลิปถุงดำพ่นพิษ ผกก.สภ.อรัญประเทศ ถูกเด้งตามลูกน้อง ขณะ ผบช.ภ.2 ลั่นตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีคลิปหลุดทำร้ายลุงเปี๊ยก ให้รับสมอ้างฆ่าเมีย ชี้หากตำรวจเกี่ยวข้องจริงดำเนินคดีทั้งวินัยและอาญา สั่งกวาดล้าง “แก๊งตังค์ไม่ออก”
วันนี้ (18 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคลิปหลุด “ลุงเปี๊ยก” แฉถูกตำรวจขู่ให้รับสารภาพ ซ้ำยังมีการใช้ถุงดำคลุม โซ่ล่าม ให้เป็นแพะรับบาปคดี “ฆ่าโหดป้าบัวผัน” ว่าล่าสุด ช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ได้มีคำสั่งมายัง พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ให้ พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศ ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วแล้ว จนกว่าการสืบสวนจะเสร็จสิ้น โดยยังไม่ขาดจากตำแหน่งเดิม
พล.ต.ท.สมประสงค์ ให้เหตุผลถึงการสั่งย้าย ผกก.สภ.อรัญประเทศ ว่าเกิดปัญหาเรื่องการให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนที่ไม่มีความชัดเจนและยังเกิดความล่าช้าในการสืบสวนสอบสวนจนส่งผลต่อคดีและความเชื่อมั่นของประชาชน โดยจะให้ผู้ที่มีความชำนาญระดับจังหวัดลงพื้นที่มาปฏิบัติหน้าที่แทน ด้วยการสั่งแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว รักษาราชการแทน
และยังให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องการทรมาน “ลุงเปี๊ยก” ระหว่างการสอบปากคำว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ โดยมีกำหนดระยะเวลาการตรวจสอบภายใน 3 วัน
"ส่วนการเรียกสอบปากคำผู้ปกครองกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุฆ่าป้าบัวผัน เป็นไปตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ซึ่งปัจจุบันหากเด็กหรือเยาวชนกระทำความผิดจะต้องมีการดำเนินคดีกับผู้ปกครองด้วย และหากพบว่าผู้ปกครองมีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลยต้องรับผิดตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้มี 5 หน่วยงาน หรือสหวิชาชีพร่วมพิจารณา”
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ยังได้เผยถึงคลิปเสียงการทรมาน “ลุงเปี๊ยก” เพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นคนฆ่า “ป้าบัวผัน” ด้วยการใช้โซ่ล่ามและใช้ถุงดำคลุมศีรษะ ว่าขณะนี้ได้เริ่มกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยได้เริ่มต้นจากการสอบปากคำเจ้าของเสียงที่อยู่ในคลิปซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองผู้กำกับฝ่ายสืบสวน สภ.อรัญประเทศ รวมถึงตำรวจที่ถูกกล่าวอ้างถึงว่าเป็นคนใช้ถุงดำวางบนศีรษะลุงเปี๊ยก ด้วย
ส่วนเจ้าหน้าที่มูลนิธิหนึ่ง (วินวิน) จะถูกเรียกตัวมาสอบปากคำด้วยเช่นกัน เพราะเป็นเจ้าของคลิปเสียงและเป็นต้นทางของข้อมูลทั้งหมด
"จากการตรวจสอบคลิปการสอบปากคำ ลุงเปี๊ยก ยังไม่พบภาพการใช้ถุงดำวางหรือคลุมศีรษะ หรือการทรมานด้วยวิธีอื่นใด แต่จะเกิดเหตุที่อื่นหรือไม่จะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และส่วนที่มีผู้เสียหายซึ่งเคยถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย เผารถจักรยานยนต์ ล่วงละเมิดทางเพศ ร่วมถึงกระทำการอนาจารนั้น ขณะนี้มีบุคคลเข้ามาแจ้งความไว้ที่ สภ.อรัญประเทศ แล้ว 4 คน ซึ่งได้กำชับให้พนักงานสอบสวนดูพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีผู้กระทำความผิดแล้ว"
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ยังบอกอีกว่าหากบุคคลใดเคยถูกผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้กระทำให้ได้รับบาดเจ็บ หรือได้รับความเสียหาย ยังคงสามารถเข้าแจ้งความตำรวจได้ และยืนยันว่าตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรม เพียงแต่ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น
แต่หากยังไม่ไว้ใจการทำงานของตำรวจในพื้นที่ สามารถเข้ามาร้องทุกข์ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วได้เช่นกัน
"ส่วนกรณีที่ยังมีบุคคลอ้างว่าเป็นกลุ่ม "ตังค์ไม่ออก" ตระเวนก่อเหตุในพื้นที่นั้น ขณะนี้ได้สั่งให้ตำรวจหาพยานหลักฐานเพื่อเอาผิด รวมถึงวางแผนกวาดล้างกลุ่มบุคคลเหล่านี้แล้ว และหากใครโดนข่มขู่ขอให้บอกข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจพร้อมที่จะให้การคุ้มครองความปลอดภัย ทั้งจัดสายตรวจลงพื้นที่เฝ้าระวังและอาจจะถึงขั้นจัดหาที่พักให้ ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลหรือพยานที่มาว่ามีความเสี่ยงอันตรายมากน้อยขนาดไหน"
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ยังเผยถึงข้อมูลการสืบสวนของเจ้าหนี่ตำรวจว่า ขณะนี้ “กลุ่มตังค์ไม่ออก" มีสมาชิกกว่า 20 คน โดยมีบุคคลที่อายุมากที่สุดคือ 30 ปี ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างสืบทราบตัวบุคคลและจะเชิญผู้ปกครองเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อซักถามถึงพฤติกรรมของบุตรหลาน นอกจากนี้ ยังพบว่าในพื้นที่มีกลุ่มวัยรุ่นอีกหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีสมาชิกไม่เท่ากัน
ส่วน “ลุงเปี๊ยก” นั้นขณะนี้อยู่ในความดูแลของศูนย์พักพิงคนไร้ที่พึ่งจังหวัดปทุมธานี เพื่อเข้ารับการรักษาอาการพิษสุราเรื้อรัง โดยจะมีคณะทำงานเข้าสอบปากคำ ลุงเปี๊ยก เพิ่มเติม และหากพบว่ามีการทรมาน ลุงเปี๊ยก จริงจะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วยเช่นกัน