ภูมิภาค - “กมธ.ปปง.” จี้กรมป่าไม้-ปปง.พิจารณาคดีเขมือบป่าภูเรือ-ด่านซ้าย กว่า 6,900 ไร่ใหม่ ให้ ปปง.เร่งดำเนินคดีในการยึด อายัดทรัพย์ ที่พบว่ามีความผิดทั้งหมด และขอให้กรมป่าไม้ได้ดำเนินการพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีนี้ใหม่ พร้อมกับเข้าจัดการทรัพย์สินที่ยึดอายัดนี้ให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์ต่อแผ่นดิน
วันนี้ (17 ม.ค.) ที่ห้องประชุมกรรมาธิการ N 407 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา เกียกกาย นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) พร้อมคณะ กมธ. ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ เลขานุการ ร่วมกันพิจารณาข้อเท็จจริงกรณีการครอบครองหรือการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในอำเภอภูเรือ และอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ของ บริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก ซึ่งเข้าข่ายความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
โดยได้เชิญเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน และอธิบดีกรมป่าไม้ แต่ได้ส่งผู้แทน ประกอบด้วย นายวิทยาพร จันทวาส นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ และ นายกรกฤษณ์ ปราบเขต นักสืบสวนสอบสวน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ นายคม ศรีสวัสดิ์ ผอ.ส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม นายสราวุฒิ บุญเกื้อ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 อุดรธานี และ นายยุทธศักดิ์ ไชยศักดา นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การพิจารณา กมธ.ปปง.พิจารณาประเด็นการตรวจสอบข้อมูลเดิมที่มีการสอบสวนและข้อมูลเชิงลึกที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อ กรณี บริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก บุกรุกยึดครองหรือทำประโยชน์ในอุทยานแห่งชาติและป่าสงวนฯ กว่า 6,200 ไร่ ใน อ.ภูเรือ จ.เลย โดยขั้นตอนที่คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีบริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก และข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสภาพของที่ดินจำนวน 6,200 ไร่ ใน อ.ภูเรือ จ.เลย ที่อยู่ในความครอบครองของ บริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ปัจจุบันเป็นอย่างไร
ซึ่งที่ประชุมมีการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์และพบช่องว่างในการติดตามทรัพย์และความเสียหายที่มีช่องว่างที่สามารถตรวจสอบได้ โดยปรากฏข้อมูลความเสียหายในภาพรวมมีมากกว่า 6,900 ไร่
นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธาน กมธ.ปปง. กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้รับการชี้แจงจากผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต และกรมป่าไม้ พบว่า ความเสียหายภาพรวมมีมากถึง 6,900 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย ที่ยังคงรอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องติดตามทวงคืนที่ดินและเรียกคืนความเสียหาย กมธ.ปปง.จึงมีมติให้สำนักงาน ปปง.ให้เร่งดำเนินคดีในการยึด อายัดทรัพย์ ที่พบว่ามีความผิดทั้งหมด และขอให้กรมป่าไม้ได้ดำเนินการพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีนี้ใหม่ พร้อมกับเข้าจัดการทรัพย์สินที่ยึดอายัดนี้ให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์ต่อแผ่นดินและให้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อ กมธ.ป.ป.ช.ด้วย