มหาสารคาม - จับได้แล้ว “ไอ้บ็อบ” ผัวโหดฆ่าเมียสาวกู้ชีพ อบต.แวงน่าง นำร่างไปฝังดิน เผยหนีไปกบดานที่อ.บ้านไผ่ เจ้าตัวรับสารภาพมีปากเสียงแล้วโมโหบีบคอจนเสียชีวิต แล้วนำร่างไปฝังในป่าท้ายหมู่บ้าน ด้านญาติเมียสาวไม่ขออโหสิกรรม
จากกรณีพบศพนางสาวดาราพร อายุ 30 ปี สาวกู้ชีพ อบต.แวงน่าง ถูกฆ่าฝังดินที่บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านหนองโพด ต.แวงน่าง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ผู้ต้องสงสัยคือนายสุวรรณ ลีโย หรือบ็อบ สามีผู้ตาย ซึ่งหายตัวไปหลังเกิดเหตุ โดยศาลจังหวัดมหาสารคามอนุมัติหมายจับ และล่าสุดนายบ็อบได้ถูกจับกุมตัวแล้วเมื่อคืนวาน (16 ม.ค.)
เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาสอบสวนและพาลงพื้นที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางประชาชนและญาติของ น.ส.ดาราพร ผู้เสียชีวิต ที่ต่างมารอพบนายบ็อบที่บ้านสวนซึ่งเป็นสถานที่ก่อเหตุฆ่า โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนกว่า 50 นายตรึงกำลังทั่วบริเวณเพื่อป้องกันบรรดาญาติของ น.ส.ดาราพร จะรุมทำร้ายร่างกายนายบ็อบจากความโกรธแค้น
จากการสอบถาม นายสุวรรณ ดีโย หรือบ็อบบี้ ผู้ต้องหา ให้การว่า เหตุจูงใจก่อเหตุ เกิดจากเหตุทะเลาะวิวาท โดยเริ่มทะเลาะกันเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 18.00 น. ที่บ้านสวนของนางสาวดาราพร พลศรี จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. นายสุวรรณได้ใช้มือบีบคอ น.ส.ดาราพร จนเสียชีวิต
จากนั้นนายสุวรรณได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ของตนไปเอารถเข็นที่อยู่บ้านนายบอย (พี่ชายนายบ็อบ) แล้วนำมาใส่ศพ น.ส.ดาราพร ไปที่ป่าท้ายหมู่บ้านนำศพไปฝังดิน โดยใช้เวลากลบดินฝังประมาณ 30 นาที
หลังก่อเหตุได้ไปหลบซ่อนที่บริเวณกระท่อมนา ซึ่งเป็นซุ้มไก่ชนของนายบอย จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.30 น.ของวันที่ 9 ม.ค. ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ของน.ส.ดาราพรที่จอดอยู่บ้านสวน นำไปจอดไว้ที่หน้าบ้านของนางสาวดาราพร และเวลาประมาณ 21.00 น. นายสุวรรณได้เดินเข้ามาที่บ้านตัวเอง และขโมยเงินของตาไปจำนวน 4,500 บาท เก็บเอาเสื้อผ้า จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์ของพ่อไปที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น แล้วบังเอิญพบกับชายชาวลาว และได้ขออาศัยอยู่ด้วย และไปของานทำที่เขียงหมูในตลาด จนพลเมืองดีพบเห็นจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบและจับกุมในที่สุด
ต่อมาวันที่ 16 มกราคม เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคามได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบนายสุวรรณ ลีโย อาศัยอยู่ที่บ้านเช่าเลขที่ 364/6 ถ.เจนจบทิศ ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ แล้วร่วมกันเข้าไปตรวจสอบบ้านเช่าดังกล่าว พบนายสุวรรณ จึงแสดงตัวและหมายจับ เมื่อควบคุมตัวได้จึงส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือมหาสารคาม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในชั้นจับกุม นายสุวรรณ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนหน้านี้นายสุวรรณเคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2556 จำคุกที่เรือนจำกลางจังหวัดมหาสารคามประมาณ 4 ปีเศษ และต่อมาถูกจับกุมในคดียาเสพติดหลังจากพ้นโทษมาได้ประมาณ 2 เดือน 22 วัน ถูกจับกุมตัวในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 จำคุกที่เรือนจำกลางจังหวัดมหาสารคามอีกประมาณ 4 ปีเศษ พ้นโทษเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2564 จากนั้นได้มาคบกับนางสาวดาราพร โดยระยะเวลาคบกันจนถึงวันที่เกิดเหตุฆ่า ประมาณเกือบ 2 ปี
สอบถามนายสุวรรณ ลีโย หรือบ็อบ ขณะกำลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ได้การว่า วันที่เกิดเหตุตนมีอาการมึนเมา และมีปากเสียงจากเรื่องส่วนตัว ลุกลามถึงขั้นเอ่ยถึงบุพการี ซึ่งตนเป็นคนใจร้อนอยู่แล้วจึงบันดาลโทสะทำร้ายภรรยาด้วยการบีบคอ และนำร่างใส่รถเข็น แล้วพ่วงใส่รถจักรยานยนต์นำร่างไปทิ้งไว้ที่บ่อขยะ ห่างจากบ้านสวนที่เกิดเหตุประมาณ 800 เมตร แล้วลวงส่งแชตไปบอกพ่อแม่ของน.ส.ดาราพร ให้ตายใจหลบไปซุ่มกบดาน ที่บริเวณกระท่อมนา ซึ่งเป็นซุ้มไก่ชนของนายบอยพี่ชาย
“อยากขอโทษครอบครัวภรรยา และครอบครัวผมที่ก่อเหตุขึ้น ยอมรับว่าเป็นคนใจร้อน และยอมรับผลกรรมที่เกิดขึ้น ตลอดระยะเวลาที่หนีไปผมเครียดและนอนไม่ค่อยหลับ คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอด” นายสุวรรณกล่าว
ด้านนางสาวแพรว พี่สาวของ น.ส.ดาราพร กล่าวว่า ตนรู้สึกโล่งใจที่นายบ็อบถูกจับและจะถูกนำมาลงโทษเพื่อคืนความเป็นธรรมให้น้องสาว ทั้งนี้ตนยังไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่ฆ่าน้องมาจากสาเหตุใด ก็อยากฟังจากปากของบ็อบ ว่าทำไมถึงโกรธแค้นขนาดลงมือฆ่ากันอย่างโหดร้ายเพียงนี้
ขณะที่นายเจริญ พลศรี พ่อของ น.ส.ดาราพร กล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยที่ร่วมมือนำจับ แต่ว่าความเสียใจยังเสียใจมากอยู่เหมือนเดิม ในส่วนที่นายบ็อบสารภาพว่าทำคนเดียวตนไม่เชื่อ เพราะลูกสาวเป็นคนตัวใหญ่ มีน้ำหนักมากกว่า 60 กก. ส่วนนายบ็อบเป็นคนร่างเล็กและขณะนั้นเมา น่าจะไม่มีแรงยกร่างลูกสาวตนไปฝังได้คนเดียว ซึ่งตนจะพยายามสืบหาคนที่ร่วมมือไปดำเนินคดีให้ได้ ส่วนนายบ็อบตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตัดสินประหารชีวิตเท่านั้น เพื่อความยุติธรรม