ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงเมืองพัทยา ชมเปาะนโยบายขยายเวลาปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ตอบโจทย์ผู้ประกอบการ เพิ่มรายได้พนักงาน วอนรัฐเร่งขยายพื้นที่โซนนิ่งเพิ่ม
ภายหลังจากที่ ครม.ไฟเขียวขยายเปิดสถานบริการถึงตี 4 นำร่องในพื้นที่ 5 จังหวัด คือ กทม. ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.2566 โดยให้เปิดได้เฉพาะสถานบริการในพื้นที่ที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด หรือมีการจัดโซนนิ่งเท่านั้นเพื่อเป็นการกระต้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในเมืองท่องเที่ยวหลัก
พบว่าหลังนโยบายดังกล่าวดำเนินการผ่านมาใกล้จะครบ 1 เดือนในวันที่ 15 ม.ค.2567 นี้ได้รับเสียงตอบรับนโยบายจากผู้ประกอบการสถานบันเทิงในพื้นที่นำร่องอย่างเมืองพัทยา เป็นอย่างดี และผู้ประกอบการต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านโยบายดังกล่าวตอบโจทย์ให้ผู้ประกอบสถานบันเทิง และพนักงานเป็นอย่างมากนั้น
วันนี้ (12 ม.ค.) นายดำรงเกียรติ พินิจการ เลขานุการสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา และผู้บริหารสถานบันเทิงฮอลลีวูด พัทยา ได้ออกมายืนยันว่านโยบายดังกล่าวถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้ประกอบการสถานบันเทิง และจากการพูดคุยเปลี่ยนความคิดกัน ผู้ประกอบการต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมาก และสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นถึง 20-30% ในแต่ละวัน
อีกทั้งพนักงานบริการและพนักงานเสิร์ฟยังมีรายได้เพิ่มต่อวัน 300-500 บาท หรือตกเดือนละประมาณ 9,000-15,000 บาท จนสามารถมีรายได้จุนเจือครอบครัวเพิ่มมากขึ้น และไม่ต้องรอความหวังจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล
“นโยบายดังกล่าวถือว่าตรงเป้า ตรงจุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคกลางคืนอย่างแท้จริง ขอขอบคุณรัฐบาลชุดนี้ที่ออกมาตรการนี้หลังผู้ประกอบการได้มีการเรียกร้องมานาน”
และยังได้ฝากถึงรัฐบาลให้ดำเนินการต่อในเรื่องของการขยายโซนนิ่ง ที่ผู้ประกอบการได้มีการร้องมานาน เนื่องจาก พ.ร.บ.สถานบริการเกี่ยวกับโซนนิ่งได้ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2545 เป็นระยะเวลา 21 ปี ซึ่งถือว่าล้าหลังต่อการพัฒนาของเมืองพัทยาที่มีการเจริญเติบโตไปเป็นอย่างมาก
“แต่สิ่งที่จะขาดไม่ได้คือการฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน ผู้ประกอบการโรงแรม และนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่กลุ่มไนท์ไลฟ์ ที่ต้องการพักผ่อนด้วย และผู้ประกอบการสถานบันเทิงจะต้องควบคุมเรื่องเสียงไม่ให้กระทบต่อคนกลุ่มนี้ ส่วนมาตรการเมาไม่ขับ และมาตรการเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 นั้นไม่ใช่เรื่องหนักใจในเมืองพัทยา เพราะ นักท่องเที่ยวที่เที่ยวสถานบันเทิงส่วนใหญ่ 80% เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่ใช้รถสาธารณะ การที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุเมาแล้วขับถือเป็นส่วนน้อย”
ที่สำคัญ เมืองพัทยาไม่มีมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ใกล้สถานบันเทิงจึงไม่ถือว่าเป็นการมอมเมายาวเชน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใน อ.บางละมุง ได้มีการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์และกวดขันวินัยจราจรในการป้องปรามอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับสถานบันเทิงขนาดใหญ่ได้มีการจัดจุดพักคอยให้ลูกค้าไว้ทุกที่ ส่วนในจุดรับลูกค้าจะมีการเป่าแอลกอฮอล์ให้ลูกค้าได้ทดสอบก่อนกลับว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินว่า 50 มิลลิกรัมตามกฎหมายกำหนดหรือไม่