xs
xsm
sm
md
lg

ห่วงคนไทยป่วยโรคหลอดเลือดสมองเพิ่ม 2.3 เท่าตัว แนะออกกำลังกายเลี่ยงการเจ็บป่วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น-เวทีประชุมงานศัลยกรรมระบบประสาทเขตสุขภาพที่ 7 พบโรคหลอดเลือดสมองในไทยน่าห่วง เผยล่าสุดปี 2566 มีสถิติผู้ป่วยสูงถึง 378 คนต่อประชากร 1 แสนคน เพิ่มขึ้นกว่า 2.3 เท่าเมื่อเทียบปี 2552 แนะวิธีรักษาดีที่สุดคือป้องกัน ไม่เป็นโรคเรื้อรังชนิดไม่ติดต่อ (NCD) ทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะไม่ออกกำลังกาย

นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7
วันนี้ (12 ม.ค.) ที่ห้องประชุมมุ่งการดี ชั้น 4 โรงพยาบาลขอนแก่น นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 เป็นประธานเปิดการประชุมเพื่อรับฟังปัญหาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการพัฒนา งานด้านศัลยกรรมระบบประสาทของเขตสุขภาพที่ 7” โดยมี นายแพทย์อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น, รศ.นพ.รุ่งศักดิ์ ศิวานุวัฒน์ ประธานราชวิทยาลัยประสาทศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย, นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น พร้อมด้วยผู้บริหารในเขตสุขภาพที่ 7 แพทย์ และเจ้าหน้าที่พยาบาล ร่วมประชุม

นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการราชวิทยาลัยประสาทศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสมาชิกประสาทศัลยแพทย์และร่วมประชุมกับผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขในเขตพื้นที่สุขภาพที่ 7 ในจังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และขอนแก่น ระหว่างวันที่ 11-12 มกราคม 2567 เพื่อรับทราบปัญหาที่สำคัญการให้บริการด้านศัลยกรรมระบบประสาทของแต่ละพื้นที่

สำหรับในเขตสุขภาพที่ 7 ปัญหาสำคัญในเขตพื้นที่ ส่วนใหญ่พบกลุ่มโรคสำคัญคือโรคหลอดเลือดสมองแตก และโรคบาดเจ็บที่ศีรษะ หากผู้ป่วยกลุ่มนี้ ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและถูกต้อง จะส่งผลดีต่อผู้ป่วย มีส่วนช่วยลดอัตราการเจ็บป่วย ลดอัตราการพิการ ลดอัตราการเสียชีวิตและภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญได้เป็นอย่างดี

นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์โรคหลอดเลือดสมองในประเทศไทยขณะนี้มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี จากข้อมูลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. พบว่าผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองรายใหม่ของประเทศไทยในปี 2552 หรือ 15 ปีที่แล้ว พบจำนวน 163 คนต่อประชากร 1 แสนคนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป แต่ในปี 2566 ที่ผ่านมาพบว่าคนไทยพบเป็นโรคหลอดเลือดสมองสูงถึง 189,000 คน คิดเป็น 378 คนต่อประชากร 1 แสนคนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป หรือสูงขึ้นเป็น 2.3 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2552 ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมาก




โดยเป็นผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองชนิดสมองขาดเลือดเฉียบพลัน 263 คน และโรคหลอดเลือดสมองชนิดเลือดออกในเนื้อสมอง 115 คน ต่อประชากร 1 แสนคน หรือเทียบง่ายๆทุกๆ 3 นาทีมีคนไทยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 1 คน ซึ่งเป็นภาวะที่คุกคามต่อสุขภาพอย่างมาก ถึงแม้การรักษาจะมีการพัฒนาการไปมากและได้ผลดี แต่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองก็ยังมีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 8 ปี ที่ผ่านมามีผู้ป่วยเสียชีวิตทั้งสิ้น 12,400 คน โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดสมองชนิดเลือดออกในเนื้อสมองมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 35 หรือเป็น 3 คนเสียชีวิต 1 คน

การรักษาโรคหลอดเลือดสมองที่ดีที่สุด คือป้องกันไม่ให้เป็นโรคเรื้อรังชนิดไม่ติดต่อ หรือ NCD ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะอ้วน ภาวะไม่ออกกำลังกาย และการสูบบุหรี่ และถ้าสงสัยว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ แขน ขาอ่อนแรง ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด นึกคำพูดไม่ออก ปวดหัวรุนแรง ตาพร่ามัวเป็นขึ้นมาแบบรวดเร็ว หรือทันทีทันใดนั้นให้รีบพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านเร็วที่สุด

แพทย์จะรีบทำการตรวจรักษาอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันในจังหวัดขอนแก่น และเขตสุขภาพที่ 7 ทุกๆ 60 กิโลเมตรจะมีโรงพยาบาลที่พร้อมให้การรักษาโรคนี้ ด้วยการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง และให้ยาละลายลิ่มเลือด กรณีเป็นโรคหลอดเลือดสมองชนิดขาดเลือดเฉียบพลันและมารักษาทันภายในเวลา 270 นาที


นอกจากนี้กรณีที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองชนิดขาดเลือดขนาดใหญ่ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือด หรือมีข้อห้ามให้ยาละลายลิ่มเลือด ก็สามารถให้การรักษาด้วยการใส่สายสวนหลอดเลือดเพื่อลากลิ่มเลือดที่อุดตันหลอดเลือดออกมาได้ ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสหายเป็นปกติได้สูงมาก ถึงแม้การรักษาดังกล่าวจะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่คนไทยทุกคนสามารถรักษาได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ด้วยการใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องรอเอกสารส่งตัว เจ็บป่วยที่ไหนให้รีบไปที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลใกล้เคียงให้เร็วที่สุดด้วยรถส่วนตัว หรือใช้รถพยาบาลฉุกเฉิน 1669


กำลังโหลดความคิดเห็น