มหาสารคาม - หนุ่มใหญ่วัย 40 ปีถูกจับพร้อมของกลางยาบ้า 1 เม็ด ขยายผลยึดได้อีก 68,001 เม็ด เผยถูกจับเสพและค้ายาบ้า 8 ครั้งไม่เคยเข็ด ยังอยู่ในวังวนยาเสพติดเหมือนเดิม เผยรับยาบ้ามาจาก “เจ๊รวย” เป็นชาว สปป.ลาว นำมาขายเฉลี่ยเม็ดละ 17 บาท
วันนี้ (9 ม.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ตำรวจภูธรวาปีปทุม และตำรวจภูธรดอนหว่าน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายศราวุฒิ เขียวเจริญ หรือหนึ่ง อายุ 40 ปี พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 68,001 เม็ด รถยนต์โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กข 2460 หนองคาย รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 1 กส 6016 มหาสารคาม และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับศาล จ.มหาสารคาม ที่ จ.406/66 ในคดียาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนหว่าน และ สภ.วาปีปทุม ได้ร่วมกันจับกุมได้ที่สี่แยกในตัวอำเภอวาปีปทุม ขณะกำลังเดินทางกลับบ้านที่อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 1 เม็ด เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผล ทำให้สามารถติดตามตรวจยึดยาบ้าอีกจำนวน 34 มัด มัดละ 2,000 เม็ด ได้ที่บ้านของผู้ต้องหา รวมทั้งหมด 68,001 เม็ด
สำหรับนายหนึ่งมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้วตั้งแต่ปี 2544 รวม 8 ครั้ง ครั้งล่าสุดถูกจับที่ สภ.วาปีปทุม ครอบครองยาบ้า 30 เม็ด เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2566 ในข้อหาเสพและมียาเสพติดให้โทษเพื่อการค้าฯ ศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 5 เดือน ซึ่งอยู่ระหว่างอุทธรณ์และประกันตัวสู้คดี และมาถูกจับได้ในครั้งนี้
ทั้งนี้ นายศราวุฒิ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดได้รับมาจาก เจ๊รวย เป็นชาว สปป.ลาว ราคาซื้อมาอยู่ที่มัดละ 25,000 บาท ตกเม็ดละ 12.5 บาท โดยจะนำยาบ้ามาส่งในพื้นที่มหาสารคาม กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ โดยในพื้นที่มหาสารคาม ได้ส่งขายไปที่ ต.ดอนหว่าน อ.เมือง อ.พยัคฆภูมิพิสัย และ อ.วาปีปทุม ราคาขายอยู่ที่มัดละ 35,000 บาท ตกเม็ดละ 17.5 บาท ได้กำไรเม็ดละ 5 บาท ซึ่งในการจับกุมได้มีการขยายผลยึดทรัพย์ เป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บ้านพร้อมที่ดิน และทรัพย์สินอื่นๆ รวมกว่า 1.2 ล้านบาท เพื่อไม่ให้มีทุนในการหวนกลับมาดำเนินการแบบเดิมอีก
ในการดำเนินการกวาดล้างยาเสพติด เป็นหนึ่งในยุทธการ “ไล่ล่านักค้าอีสานเหนือ 252” นโยบายของตำรวจภูธรภาค 4 และนโยบายกวาดบ้านล้างบ้าน ของกระทรวงมหาดไทย มีการสุ่มตรวจปัสสาวะของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ซึ่งดำเนินการควบคู่กันไปกับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งที่ผ่านมาเคยตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะของสารวัตรกำนัน ก็ได้ให้ออกและส่งตัวไปบำบัดแล้ว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เสพและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอฟเฟตามีน หรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ จ.406/66 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ข้อหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษฯ (ของ สภ.ดอนหว่าน) ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วาปีปทุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
