ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ค่าฝุ่น PM 2.5 เมืองใหญ่โคราชพุ่งไม่มีผ่อน คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ หลังชาวบ้านยังลักลอบเผารายวัน ไม่กลัวกฎหมาย ไม่สนคำเตือน แนะ ปชช.ควรสวมหน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร และจำกัดเวลาทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง
วันนี้ (8 ม.ค. 67) นายธนัญชัย วรรณสุข ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่นมลพิษในอากาศพื้นที่ จ.นครราชสีมา ว่า คุณภาพอากาศ ณ สถานีสูบน้ำประตูพลแสน ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ในวันนี้เมื่อตรวจวัดผ่านแอปพลิเคชัน Air4Thai พบว่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ที่ 38.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศวันนี้ตรวจวัดได้ที่ 103 AQI (Air Quality Index)
ทั้งนี้ ปัจจัยมาจากการเผาของประชาชนมากกว่าปัจจัยสภาพอากาศหรือมลพิษควันดำจากการจราจร และส่วนใหญ่ที่ตรวจพบเป็นการเผาที่โล่งแจ้งในพื้นที่การเกษตรมากกว่าพื้นที่ป่า ทั้งๆ ที่ทางจังหวัดนครราชสีมาได้รณรงค์งดเผากันอย่างเข้มข้น ออกประกาศห้ามเผาฯ เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้ลงโทษผู้ที่ลักลอบเผา โดยให้อำนาจการกำกับดูแลควบคุมตามลำดับกันไป ตั้งแต่นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้กำชับประชาชนห้ามเผาโดยพลการ ถ้าเกิดเหตุไฟไหม้ที่โล่งในพื้นที่หมู่บ้านใด ก็อยู่ในความรับผิดชอบของหมู่บ้าน-ตำบลนั้น
ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเข้ามาช่วยเรื่องการดับไฟ ควบคุมไฟไม่ให้ลุกลาม ถ้าพบผู้กระทำผิดก็ส่งให้ฝ่ายปกครองและตำรวจดำเนินการต่อ นำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ส่วนการขอความร่วมมือทางจังหวัดฯ ดำเนินการมาตลอดอยู่แล้ว แต่ยังมีประชาชนหลายรายที่ไม่ให้ความร่วมมือ จึงต้องนำมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้
คุณภาพอากาศที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพนี้ ประชาชนทั่วไปควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร และจำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยง ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์