บุรีรัมย์- คืบหน้า ดาบตำรวจหื่นบุกลักหลับเมียเพื่อนในงานเลี้ยงรุ่นที่รีสอร์ทดัง จ.บุรีรัมย์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วแต่ปฏิเสธไม่ได้ทำ ด้านเหยื่อเครียดหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะผู้ก่อเหตุเป็น ตร. พนักงานสอบสวนเร่งสอบพยานแวดล้อมและรวบรวมหลักฐานสรุปสำนวนส่งอัยการ
วันนี้ ( 29 ธ.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นภรรยาของดาบตำรวจนายหนึ่งสังกัดภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.อนุเปรม ทุมนานอก รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าถูกข้าราชการตำรวจนายหนึ่ง ยศดาบตำรวจ อายุประมาณ 50 ปี สังกัด สภ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กระทำอนาจารและพยายามล่วงละเมิดทางเพศ ขณะนอนหลับในห้องที่รีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 16 ธ.ค.66 ซึ่งมีการจัดงานเลี้ยงรุ่นตำรวจ
โดยดาบตำรวจที่ก่อเหตุอ้างว่าเมาและเข้าใจผิดคิดว่าเป็นภรรยาตัวเอง แต่หลังจากก่อเหตุไม่เคยกล่าวขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบอะไรให้กับผู้เสียหายเลย ผู้เสียหายจึงได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินการเอาผิดกับดาบตำรวจนายดังกล่าวตามกฎหมาย และอยากให้ผู้บังคับบัญชาลงโทษทางวินัยด้วย เพราะการกระทำดังกล่าวแม้ว่าจะอ้างว่าเข้าใจผิดหรือเมา เป็นการกระทำที่ย่ำยีศักดิ์ศรีของผู้หญิง ที่สำคัญผู้ก่อเหตุและสามีของผู้เสียหายก็เป็นตำรวจเหมือนกัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ ดาบตำรวจที่ถูกแจ้งความกล่าวหา ได้เดินทางมาพร้อมกับภรรยา เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่ สภ.นาโพธิ์ ตามหมายเรียก ซึ่งเบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหา "ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภรรยาตน" แต่ดาบตำรวจให้การภาคเสธว่าไม่ได้กระทำชำเราผู้เสียหายตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งหลังจากพิมพ์มือและแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ได้ปล่อยตัวชั่วคราวตามขั้นตอน เนื่องจากมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก และไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี ส่วนที่ผู้ต้องหาจะให้การภาคเสธก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา
หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานโดยได้สอบพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ทั้งคนที่ไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นและพนักงานรีสอร์ท แล้ว 4-5 ปาก และรอผลตรวจแพทย์ ก่อนจะสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการตามกระบวนการขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวพยายามจะสอบถามดาบตำรวจที่ถูกแจ้งความกล่าวหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้มีโอกาสได้ชี้แจงบ้าง แต่ดาบตำรวจไม่ยอมตอบคำถาม และพยามเดินหนี
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยังรีสอร์ทที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามพนักงานที่ให้บริการในวันที่จัดงานเลี้ยงรุ่น ได้พูดคุยกับพนักงานหญิงคนหนึ่ง เล่าให้ฟังว่าได้มีการจัดงานเลี้ยงรุ่นตำรวจที่รีสอร์ทดังกล่าวจริง ส่วนตัวรู้จักกับหญิงผู้เสียหาย เพราะเคยมาพักที่รีสอร์ทหลายครั้ง แต่ไม่เคยเห็นตำรวจคู่กรณีมาก่อน เพิ่งเห็นในวันจัดงานเลี้ยงรุ่น แต่ในงานเขาพูดคุยกินเลี้ยงกันปกติ กระทั่งประมาณ 5 ทุ่มผู้เสียหายบอกว่ารู้สึกมึนหัวจากการดื่มสังสรรค์และง่วง ตนจึงพาเดินไปที่ห้องพักเพื่อพักผ่อน ก็ยังต้มมาม่าให้ผู้เสียหายกินอยู่เลย แต่ผู้เสียหายกินได่แค่ 1-2 คำบอกว่ากินไม่ไหวแล้ว ตนจึงให้นอนบนเตียงและห่มผ้าให้
จากนั้นผ่านไปราว 5 นาที ดาบตำรวจคู่กรณีกับภรรยา ก็เดินตามมาที่ห้องซึ่งทั้งคู่ก็นั่งอยู่บนโซฟาในห้อง ลักษณะเหมือนคนเมา ส่วนผู้เสียหายนอนอยู่บนเตียง จากนั้นตนจึงบอกกับสามีภรรยา ที่นั่งบนโซฟาว่า "ฝากดูแลพี่เขาด้วย" เพราะตนเองจะกลับบ้านแล้ว ทั้งคู่ยังตอบรับ หลังจากนั้นตนออกจากห้องแล้วกลับบ้าน พอเช้าอีกวันมาทำงานผู้เสียหายถึงบอกว่าเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ซึ่งวันนี้ทางพนักงานสอบสวนก็ได้เรียกไปสอบในฐานะพยาน ซึ่งตนให้ข้อมูลไปเท่าที่เห็น