อุทัยธานี - สุขส่งท้ายปีชวนเที่ยว “แก่นมะกรูด” จุดหนาวสุดกลางสยาม ทั้งใกล้ กทม.-บรรยากาศดีไม่แพ้ภาคเหนือ พร้อมเปิดให้เข้าชมดอกไม้เมืองหนาวฟรีจนถึงมกราฯ67 แถมได้ชิม-ชอป พืชผัก/อาหารพื้นบ้าน ผ้าทอกะเหรี่ยง
วันนี้(29 ธ.ค.66) นายเผด็จ นุ้ยปรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วย ายสัมพันธ์ สุภาภักดี ผอ.ททท. สำนักงานอุทัยธานี นายสิรภพ นิยมเดช นายอำเภอบ้านไร่ พ.ต.อ.อังคาร อุทัยพันธุ์ ผกก.สภ.บ้านไร่ และ นายปิติธรรม ฐิติมนตรี ที่ปรึกษา สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ ร่วมกันแถลงการจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเทศกาลไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้เมืองหนาว ดอกไม้งามแห่งขุนเขา @แก่นมะกรูด หนาวสุดกลางสยาม
เพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวสุดอันซีนของอุทัยธานี ที่ถูกยกให้เป็นพื้นที่หนาวสุดกลางสยาม มีบรรยากาศดีไม่แพ้ทางภาคเหนือ และอยู่ใกล้ กทม. โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเดือนมกราคม 2567
ซึ่งตลอดช่วงเดือนธันวาคม ไปจนถึง เดือนมกราคม 2567 “แก่นมะกรูด” จะเต็มไปด้วยดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสายพันธุ์ อาทิ ดอกคอสมอส ทิวลิป ต้นคริสต์มาส ฯลฯ จะออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง โดยช่วงกลางดึกไปจนถึงรุ่งเช้าในช่วงนี้ มีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 15-17 องศาเซลเซียส ส่วนช่วงกลางวันและช่วงเย็นนั้น จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้ “แก่นมะกรูด” จะมีจุดท่องเที่ยวอยู่ 3 จุดคือ จุดแรกบริเวณศูนย์พัฒนาสังคมที่ 73 จังหวัดอุทัยธานี บ้านอีมาด อีทราย เป็นจุดที่มีการปลูกพืชและดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสายพันธุ์ เช่น ดอกลิลลี่ ดอกเบญจมาศ ดอกรักเร่ และดอกผีเสื้อ เป็นนักท่องเที่ยวสามารถแวะเก็บบรรยากาศและชื่นชมความงามก่อนเดินทางขึ้นยอดดอย
จุดที่ 2 องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี ได้จำลองสถานที่ให้เสมือนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้และสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง พร้อมกับรูปปั้น สืบ นาคะเสถียร วีระบุรุษของสัตว์ป่าและธรรมชาติของประเทศไทย ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นภาพความประทับใจ ของการอยู่ร่วมกับธรรมชาติและสัตว์ป่า พร้อมกับบริการที่พักผ่อนให้กับนักท่องเที่ยวก่อนขึ้นไปยังจุดที่ 3 ซึ่งจะเป็นจุดที่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ใครต่างต้องพากันแวะถ่ายรูปกันทุกราย
และจุดที่ 3 จะอยู่ห่างจากจุดที่ 2 ไปประมาณ 100 เมตร ถือเป็นจุดไฮไลท์ของแก่นมะกรูด ที่รวบรวมดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสายพันธุ์ จัดตกแต่งไว้อย่างสวยงาม มีมุมถ่ายภาพหลากหลาย โดยเฉพาะมุมสูงที่จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมความงามของดอกไม้ที่มองเห็นได้แบบ 360 องศา และยังมีมุม ชอป-ชิม อาหาร พืชผักพื้นเมืองปลอดสารพิษ และผ้าทอมือชนเผ่ากะเหรี่ยง โดยทุกจุดนั้นเข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น อีกด้วย
