อุบลราชธานี - รถบรรทุกน้ำยางดิบเบรกแตก เทกระจาดน้ำยางสดเต็มถนน ทำให้รถที่วิ่งตามหลังเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน คนขับบอกรถส่งสัญญาณแล้วแต่ไม่นำเข้าอู่ซ่อม
เมื่อเวลา 17.45 น. วันนี้ (27 ธ.ค.) ร.ต.ท.หญิง ประภัสสร สมอุ่มจารย์ รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถ 6 ล้อบรรทุกน้ำยางพาราพลิกคว่ำ บริเวณสี่แยกถนนบายพาสโนนหงษ์ทอง ถนนอุบล-ตระการ ตำบลไร่น้อย อำเภอเมืองอุบลราชธานี ทำให้มีน้ำยางหกเปรอะเปื้อนเต็มถนน ทำให้การจราจรติดขัดและเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน จึงพร้อมมูลนิธิการกุศลจีตัมเกาะอุบลราชธานี และหน่วยกู้ภัยใกล้เคียงเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 6 ล้อ ฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 84-0003 อุบลราชธานี เสียหลักพุ่งชนเกาะกลางถนนฝั่งขาออก ขณะที่บนถนนมีถังน้ำยางสีฟ้าขนาด 5 ตัน หล่นออกจากตัวรถพลิกคว่ำอยู่บริเวณทางเบี่ยง 1 ช่องจราจร มีน้ำยางสดสีขาวไหลออกมาเต็มผิวจราจร ระหว่างนั้น ทำให้รถจักรยานยนต์ที่ขับมาตรงทางเบี่ยงล้มคว่ำไป 2 คัน และอีกคันเสียหลักพุ่งชนรถยนต์เก๋งได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยทำบาดแผลให้กับคนที่ได้รับบาดเจ็บจากล้ม
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงอุบลราชธานีที่ 1 ซึ่งได้รับแจ้งเหตุได้นำรถบรรทุกน้ำและคนงานมาฉีดน้ำเอาน้ำยางออกจากผิวการจราจร เพราะยางเริ่มเหนียวติดตามล้อรถยนต์และจักรยานยนต์ที่วิ่งผ่านไปมาในบริเวณนั้น
จากการสอบถามนายเอกชัย พรมสุข อายุ 40 ปี พนักงานขับรถคันเกิดเหตุเปิดเผยว่า ตนรับน้ำยางหนัก 5 ตันมาจากอำเภอโพธิ์ไทร เพื่อไปส่งโรงงานยางพาราในอำเภอวารินชำราบ เมื่อรถวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุที่เป็นสี่แยกขนาดใหญ่มีการจราจรพลุกพล่าน และมีรถจอดติดไฟแดงอยู่ข้างหน้า จึงพยายามหยุดรถ แต่เบรกแตกหยุดไม่อยู่ จึงหักพวงมาลัยรถออกมาตรงทางเบี่ยงเพื่อไม่ให้รถพุ่งไปชนรถที่จอดอยู่ข้างหน้า ด้วยความเร็วและน้ำหนักบรรทุก ทำให้รถเสียหลักปีนขึ้นไปบนเกาะกลางถนน
ก่อนที่ถังบรรจุน้ำยางจะหลุดออกจากที่ยึดตกลงไปอยู่บนผิวจราจร และมีน้ำยางไหลออกจากถังมาบนพื้นถนนดังกล่าว สำหรับสาเหตุเบรกแตกครั้งนี้มีสัญญาณเตือนตั้งแต่เมื่อวานที่บางครั้งก็เบรกไม่อยู่ แต่ตนไม่ได้นำรถเข้าตรวจเช็ก จึงฝากเป็นอุทาหรณ์ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลหรือผู้ที่กำลังจะเดินทางกลับบ้านให้ตรวจเช็กรถให้ดี หากมีอาการผิดปกติให้รีบนำรถเข้ารับการซ่อม
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายเอกชัยขับรถโดยประมาท และทำให้มีสิ่งปฏิกูลหกหล่นเปื้อนในทางสาธารณะดำเนินคดีต่อไป
