บุรีรัมย์- ระทึกไฟไหม้รถเก๋งชาวอินโดนีเชีย ทีมงานนักแข่ง ขณะจอดติดไฟแดงใกล้สนามฟุตบอลช้างอารีน่า
เสียงดังคล้ายระเบิดอย่างรุนแรงเป็นระยะ พากันวิ่งหนีตายลงจากรถก่อนลุกท่วมวอดทั้งคัน
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้(22 ธ.ค.) พ.ต.ท.อภิชาติ มีสา รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์ที่หน้าสนามฟุตบอล (ช้างอารีนา) ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานรถดับเพลิงจากมูลนิธิกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ เทศบาล ต.อิสาณ และ อบต.ใกล้เคียง ร่วมตรวจสอบและระงับเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังโหมลุกไหม้รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน กภ-7508 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดติดไฟแดงอยู่ถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย บริเวณหน้าสนามฟุตบอล(ช้างอารีน่า) อย่างรุนแรง และมีเสียงดังคล้ายระเบิดเป็นระยะๆ สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุและรถที่สัญจรผ่านไปมา ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดกั้นถนนเพื่อความปลอดภัย
จากนั้นหน่วยกู้ภัยฯ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาล และ อบต.จึงได้ระดมฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้รถเก๋งคันดังกล่าว โดยใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ไฟก็ได้ไหม้รถเก๋งคันเกิดเหตุวอดเสียหายทั้งคันแล้ว แต่เคราะห์ดีที่คนที่นั่งมาในรถจำนวน 5 คน ซึ่งเป็นชาวอินโดนีเซียลงจากรถได้ทันก่อนจะเกิดไฟลุกไหม้ จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบถามคนขับซึ่งเป็นชายชาวอินโดนีเซีย อายุ 36 ปี ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า พวกตนเป็นทีมงานรถแข่งมาจากประเทศอินโดนีเชีย โดยเช่ารถมาจากกรุงเทพมหานคร ขับมาสนามแข่งที่จ.บุรีรัมย์ แต่ขณะจอดติดไฟแดงก็เกิดไฟไหม้รถโดยไม่ทราบสาเหตุ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ อส.ซึ่งเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะกำลังจัดสถานที่เพื่อเตรียมจัดงานกาชาดที่บริเวณด้านหน้าสนามฟุตบอล ก็เห็นควันขึ้นที่ด้านหน้ารถเก๋งขณะจอดติดไฟแดง จึงตะโกนบอกให้คนในรถรีบลงจากรถก่อน แต่คนในรถเป็นชาวต่างชาติมาทราบภายหลังว่าเป็นชาวอินโดนีเชีย จึงพยายามสื่อสารให้ลงจากรถก่อน ซึ่งตนก็ช่วยเขาขนของออกจากรถไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัยก่อน จากนั้นไม่กี่นาทีก็เกิดไฟลุกท่วมรถอย่างรุนแรง ส่วนสาเหตุก็ไม่ทราบ
เช่นเดียวกับพลเมืองดีอีกคนที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงที่เกิดกลุ่มควันขึ้นที่ห้องเครื่องด้านหน้ารถเก๋งคันดังกล่าวทั้งตนและเพื่อนอีกหลายคนก็ได้รีบวิ่งไปขอยืมถังเคมีดับเพลิงที่ปั้มร้ำมันซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุมาฉีดเพื่อสกัดไม่ให้ไฟไหม้ แต่ก็ไม่เป็นผลเพียงไม่นานไฟก็ลุกท่วมรถทั้งคัน และมีเสียงคล้ายระเบิดดังเป็นระยะๆ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวเป็นรถน้ำมันไม่ได้ติดแก๊ส จึงสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากระบบสายไฟช็อต อย่างไรก็ตามต้องรถให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง