xs
xsm
sm
md
lg

วิสามัญดับอีกศพ!คาราวานขนยาบ้าเข้าชายแดนเชียงดาวกลางวันแสกๆ เจอทหารพรานยิงดับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ – คาราวานลอบขนยานรกเข้าไทยถี่ยิบ..ล่าสุดโดนทหารพรานวิสามัญดับคาป่าชายแดนเชียงดาวอีกศพ หลังพบยกขบวนข้ามแดนมากันเป็นพรวนกลางวันแสกๆ พอขอตรวจกับยิงใส่ เจอสวนกลับดับคาที่ ยึดยาบ้าอีก 3 เป้ ขณะที่เช้ามืด(21 ธ.ค.)ลอบเข้าทางแม่อายโดนยิงดับไปก่อน 2 ศพ


วันนี้ (22 ธ.ค.66) เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.3207 บก.ควบคุม ทพ.ศปก.กองทัพภาคที่ 3 ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา พื้นที่บ้านนาศิริ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

หลังจากจัดกำลังพลชุดปฏิบัติการออกลาดตระเวนบริเวณดังกล่าวเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบกลุ่มคนต้องสงสัยจำนวนประมาณ 10-15 คน เดินลัดเลาะมาตามไหล่เขาเจ้าหน้าที่จึงให้สัญญานหยุดตรวจ แต่ปรากฎว่ากลุ่มคนดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ทำให้เกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น กระทั่งหัวค่ำเสียงปืนจึงสงบลงและพบว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายปลอดภัย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ขอกำลังสนับสนุนจาก บก.ควบคุม ทพ.ศปก.กองทัพภาคที่ 3 ร้อย.ม.บก.ควบคุมผาดง ร้อย ตชด.335 เข้าควบคุมพื้นที่เอาไว้และสกัดกั้นตามช่องทางต่างๆ ตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา กระทั่งเช้าจึงเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ปะทะอย่างละเอียดดังกล่าว

ผลการตรวจสอบพบฝ่ายตรงกันข้ามเสียชีวิตอยู่ในป่าที่เกิดเหตุ 1 ราย และพบเป้สะพายหลังแบบว้าตกอยู่ใกล้กันจำนวน 3 ใบ ภายในมียาบ้าเบื้องต้นจำนวนประมาณ 220,000 เม็ด เฮโรอีน บรรจุไว้ในขวดเครื่องดื่มเกลือแร่จำนวน 26 ขวด จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจหลักฐานในที่เกิดเหตุตามกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวแจงว่า เช้ามืดวันที่ 21 ธ.ค.เจ้าหน้าที่ทหารร้อย ทพ.3201 บก.ควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ได้ปะะทะและวิสามัญฆาตรกรรมขบวนการขนยาบ้าจำนวน 2 ศพ ยึดของกลางยาบ้าได้จำนวน 13 กระสอบเป้ รวมของกลางยาบ้ามากกว่า 2,060,000 เม็ด

ด้าน พล.ต.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่านี้เชื่อว่าจะมีความพยายามนำเข้ามากขึ้นเพราะมีการสู้รบในประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะจากกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ โดยการข่าวระบุว่ายังจะมียาบ้าอีกเป็นจำนวนมากที่จ่อจะลักลอบเข้ามาอีก เพราะพวกเขาต้องการหาเงินไปซื้ออาวุธ

ดังนั้นกองกำลังผาเมืองซึ่งดูแลชายแดนด้าน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย จึงต้องปรับตัวตามสถานการณ์โดยจะเข้มงวดมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะช่วงใกล้เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ต่อเนื่องไปจนถึงเทศกาลสงกรานต์ 67

“สิ่งสำคัญคือการบูรณาการข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งทำให้ประสบความสำเร็จในการสกัดกั้นที่ผ่านมา ทั้งนี้ต่อไปก็ต้องมีการปรับยุทธวิธี การข่าว ฯลฯ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์เพื่อสกัดกั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป”


กำลังโหลดความคิดเห็น