กำแพงเพชร - สุดสะเทือนใจ 2 แม่ลูกเคราะห์ร้ายขี่ จยย.กลับจากทำธุระถึงปากทางเข้าบ้านถูกรถยนต์กระบะพุ่งชน หนูน้อยวัย 5 ขวบเสียชีวิตคาที่ ส่วนแม่บาดเจ็บสาหัส กู้ภัยนำส่ง รพ.ผ่าน 2 วัน ญาติเผยจุกอกจำเป็นบอกให้รู้ลูกตาย-ขอแพทย์มางานเผาศพ
อุบัติเหตุสุดสะเทือนใจดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อ 10.00 น.เศษ วันที่ 15 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ขณะนางสาวขวัญเรือน แสงสว่าง อายุ 35 ปี อาศัยอยู่ไม่มีเลขที่ บ้านทุ่งธารทอง ม.16 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ขับขี่รถจักรยานยนต์มากับลูกชายวัย 5 ขวบ เดินทางกลับจากทำธุระในเขต อ.วังเจ้า เพื่อกลับบ้าน
ขณะกำลังจะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านบริเวณถนนพหลโยธิน ปากทางเข้าวัดสังฆานุภาพ(ทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสนามเพรียง)ปรากฏว่ามีรถยนต์กระบะขับมาด้วยความเร็วพุ่งชนอย่างจังจนทำให้เด็กชายพีรภัทร แก้วห้อย หรือ“น้องพี”อายุ 5 ขวบเสียชีวิตคาที่อยู่ในที่เกิดเหตุ
ส่วนนางสาวขวัญเรือน แสงสว่าง ผู้เป็นแม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส อาสาหน่วยกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน จุดโกสัมพีนคร ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งไปยัง รพ.โกสัมพีนคร เพื่อให้แพทย์ทำการช่วยชีวิตเป็นการเร่งด่วนเนื่องจากนางสาวขวัญเรือน มีอาการค่อนข้างสาหัสมาก ซึ่งภายหลังแพทย์ได้แจ้งให้ญาติทราบว่า อาการของผู้บาดเจ็บมีกระดูกเชิงกรานร้าว ขาด้านขวาหัก ซี่โครงบนหัก 1 ซี่ และกระดูกกรามร้าว ซึ่งอยู่ในความดูแลของแพทย์ โรงพยาบาลโกสัมพีนคร
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุทางญาติๆพร้อมทั้ง นายครรชิต แก้วห้อย สามีของ น.ส.ขวัญเรือน ได้ช่วยกันจัดพิธีศพของเด็กชายพีรภัทร แก้วห้อย หรือ“น้องพี”ที่บ้าน ซึ่งมีลักษณะเหมือนเป็นเพิงพักชั่วคราว(กระต๊อบ)โดยมีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเดินทางเข้ามาช่วยงานศพ ซึ่งต่างพากันแสดงความสงสาร และรู้สึกหดหู่ใจ
เนื่องจากหลังเกิดเหตุ 2 วัน น.ส.ขวัญเรือน ผู้เป็นแม่ยังไม่ได้สติจึงยังไม่ทราบว่าลูกชายตัวเองเสียชีวิต กระทั่งในวันถัดมาเมื่อน.ส.ขวัญเรือน รู้สึกตัว-อาการทุเลา ทางญาติๆจึงตัดสินใจแจ้งข่าวร้ายให้กับน.ส.ขวัญเรือน ได้ทราบว่า“น้องพี” บุตรชายได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุไปแล้ว จน น.ส.ขวัญเรือนสะอึกสะอื้นร่ำไห้อยู่บนเตียงผู้ป่วย ทางญาติต่างพากันร้องไห้ตาม และปลอบใจให้สงบจิตใจ แต่ไม่เป็นผลยังคงร่ำไห้อยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา น.ส.ขวัญเรือนได้ให้ญาติติดต่อประสานงานกับทางแพทย์โรงพยาบาลโกสัมพีนคร ขอที่จะไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพของ“น้องพี”บุตรชาย คืนสุดท้าย ( 20 ธ.ค.66) พร้อมทั้งร้องขอ เข้าร่วมฌาปนกิจศพลูกชายของตน วันรุ่งขึ้นคือ 21 ธันวาคม ที่วัดคลองเมือง ซึ่งเป็นวัดอยู่ในย่านดังกล่าว
เบื้องต้นทางโรงพยาบาลโกสัมพีนคร ก็ได้ให้ความอนุเคราะห์ให้เจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลนำรถตู้ของทางโรงพยาบาลมารับส่ง พร้อมนำเตียงผู้ป่วยมาตั้งไว้ให้พักผ่อนในการเข้าร่วมในพิธีศพ และเมื่อเสร็จพิธีแล้วทางแพทย์ได้ขอร้องให้ทางญาติประสานงานทางโรงพยาบาล ส่งตัวมารักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเช่นเดิม เพราะอาการของนางสาวขวัญเรือนยังไม่ดีขึ้น
ทั้งนี้บรรยากาศในการทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพ “น้องพี” คืนสุดท้ายมีชาวบ้านในพื้นที่ ต.โกสัมพี ที่ทราบข่าวพากันเดินทางมาฟังสวดกันเป็นจำนวนมากเมื่อเห็นทั้งสภาพบ้านที่อยู่อาศัย และผู้เป็นแม่ของ“น้องพี“แล้วต่างเข้ามาปลอบใจ พร้อมทั้งให้กำลังใจนางสาวขวัญเรือน ที่ยังคงมีท่าทีอิดโรยร่ำไห้อยู่บนเตียงคนไข้ตลอดเวลา
และเมื่อถึงวันฌาปนกิจ อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฯ จึงได้ช่วยกันนำร่างของนางสาวขวัญเรือนเคลื่อนย้ายไปยังรถตู้ของทางโรงพยาบาลที่มารอรับ ไปร่วมพิธีศพลูก ซึ่งระหว่างทางญาติที่นั่งไปด้วยได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่านางขวัญเรือนร่ำไห้สะอึกสะอื้นตลอดเวลาระหว่างที่รถยนต์เคลื่อนขบวนไปยังวัด
สำหรับ บรรยากาศในการฌาปนกิจศพมีผู้นำชุมชนและชาวบ้าน รวมไปถึงคณะครู เพื่อนนักเรียน เดินทางมาร่วมไว้อาลัยกันเป็นจำนวนมา โดยทางญาติและพ่อของ“น้องพี” ได้นำเอาของเล่นมาวางไว้บริเวณหน้าเมรุ เพื่อส่งไปให้“น้องพี” หลายคนต่างพากันร่ำไห้ด้วยความสงสารครอบครัวของนางขวัญเรือนที่ประสบเคราะห์กรรมดัวกล่าว
ส่วนด้านคดีความ คนขับรถกระบะคู่กรณีได้เยียวยามาแล้วส่วนหนึ่ง เมื่อวันเกิดเหตุได้นำเงินมาให้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆเป็นจำนวนเงิน 40,000 บาท ซึ่งต่อจากนี้ไป ทางญาติและพ่อของน้องพีแจ้งว่าคงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปก่อน หลังเสร็จงานศพเรียบร้อยแล้วจึงจะมีการพูดคุยกับคู่กรณีต่อไป ซึ่งค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.เป็นต้นมาจนถึงวันนี้รวมแล้ว 7 วันก็มีค่าใช้จ่ายมากพอสมควร บางส่วนได้หยิบยืมจากทางญาติมา เป็นค่าใช้จ่ายเฉพาะหน้าไปก่อน