ลำพูน – ตำรวจจับแล้ว..หนุ่มแอบส่องสาวเข้าห้องน้ำปั๊มน้ำมัน ขณะปั่นจักรยานสีแดงย้อนรอยมาปั๊มเดิมอีก พบเป็นผู้พิการทางด้านสติปัญญา-ขี่ จย.มาปั๊มทุกวัน
ความคืบหน้ากรณีนางสาวเอ (นามสมมุติ) วัย 35 ปีได้แวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.เหมืองง่า อ.เมืองลำพูน ซึ่งขณะที่เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ ได้พบผู้ชายอายุประมาณ 20-30 ปี อยู่ในห้องน้ำผู้หญิง ทีแรกก็ตกใจ คิดว่าเขาคงเข้าห้องน้ำผิด เลยวิ่งมาดูป้ายที่หน้าห้องน้ำใหม่ ก็เห็นว่าเป็นห้องน้ำหญิงถูกต้อง
จากนั้นเธอก็ยังคิดแบบโลกสวย ว่าคงไม่เป็นไร เขาน่าจะเป็นพนักงานทำความสะอาด เพราะเดินวนเข้าๆออกๆ ห้องน้ำผู้หญิงห้องสุดท้าย จึงเข้าห้องน้ำทำธุระตามปกติ สักพักเธอรู้สึกเหมือนมีอะไรมาแกว่งโดนที่เท้า ก็ตกใจและเคืองในใจนิดๆว่าทำไมพนักงานทำความสะอาดไม่สุภาพเลย
ต่อมาไม่นาน ก็เจอผู้ชายคนนั้น เอาหน้าสอดเข้ามาตรงช่องว่างด้านล่าง แล้วแหงนหน้ามาถามว่า..“พี่ครับ นั่งทำอะไรอยู่ครับ” จนตกใจร้องลั่น ผู้ชายคนนั้นก็ตกใจเช่นกัน ต่างคนต่างวิ่งกระเจิงออกไปนอกออกห้องน้ำ
น.ส.เอ บอกว่า วิ่งออกมาเจอคนรู้จักพอดี เลยพากันไปแจ้งเรื่องกับ ผจก.ปั๊ม เพื่อขอเปิดดูกล้องวงจรปิด ทางปั๊มก็ให้ความมือเป็นอย่างดี ช่วยเปิดกล้องดูพร้อมกับแจ้งตำรวจสายตรวจในพื้นที่ให้ จนพบว่าชายคนดังกล่าวเดินเข้าออกห้องน้ำตั้งแต่เวลา 12.10 น. ประมาณ 4 รอบ ก่อนที่เธอจะเข้าห้องน้ำ ซึ่งช่วงเวลาที่เธอเจอเป็นรอบที่ 4
และที่อึ้งไปกว่านั้น จากคำบอกเล่าของแม่บ้านปั๊มน้ำมัน บอกว่า “เขามาทุกวัน ในเวลาใกล้เคียงกับที่เธอเจอ ผู้ชายคนนี้ ใช้จักรยานสีแดงเป็นพาหนะ” ซึ่งต่อมาได้แจ้งความไว้แล้วตามคำแนะนำของตำรวจสายตรวจ
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้(19 ธ.ค.66) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำพูน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตำบลเหมืองง่า อ.เมืองลำพูน ได้จับกุมตัวนายชายคนดังกล่าว ขณะที่เจ้าตัวปั่นจักรยานย้อนรอยมาที่ปั๊มที่เกิดเหตุ ซึ่งทางพนักงานปั๊มน้ำมันสังเกตเห็นและจำได้ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่จับตัวไว้
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สถานีตำรวจภูธร จ.ลำพูน ทราบชื่อว่านายบี (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี นอกจากนี้จากการตรวจสอบเอกสารในกระเป๋าเงินพบว่าเป็นผู้พิการประเภท 5 ทางด้านสติปัญญา และจากการตรวจสอบภาพและคลิปในโทรศัพท์ของนายบี เบื้องต้นยังไม่พบภาพถ่ายหรือคลิปวีดิโอของผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานผู้ปกครองของนายบี และผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายอนาจาร แต่ต้องรอสอบปากคำผู้ปกครองของนายบี และผู้เสียหายเพิ่มเติมก่อนถึงจะสามารถสรุปสำนวนคดีได้
