บุรีรัมย์- ป้าร้านชำอ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เผาพริกเผาเกลือสาปแช่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นจนท.สรรพากรโทร.หลอกจ่ายภาษีผ่านแอปฯไม่ถึง 15 นาทีดูดเงินเกลี้ยงบัญชีกว่า 7 หมื่น แจ้งความปีกว่ายังเงียบ ตัดพ้อทั้งน้ำตาเป็นเงินเก็บสะสมมาเกือบ 10 ปีถูกดูดหมดตัว เครียดเกือบฆ่าตัวตาย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วย
วันนี้ (18 ธ.ค.) น.ส.อภิรดี พาจุจันทาโร อายุ 53 ปี แม่ค้าร้านขายของชำที่ตำบลเมืองไผ่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ สุดทนได้นำเตาถ่านและกระทะออกมาตั้งหน้าร้าน เพื่อทำการเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ปวดแสบปวดร้อน หลังจากถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร หลอกให้จ่ายภาษีผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อความสะดวกไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปจ่ายด้วยตัวเอง
จึงหลงเชื่อให้หลานสมัครแอปฯ ตามที่เขาหลอกล่อ ผ่านไปไม่ถึง 15 นาทีถูกดูดเงินในบัญชีหายเกลี้ยง 78,693 บาทซึ่งเป็นเงินที่เก็บสะสมจากการขายของชำ เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.2565 ไปแจ้งความแล้วแต่จนถึงขณะนี้ผ่านไปกว่า 1 ปี เรื่องยังเงียบไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ทำให้ได้รับความเดือดร้อนไม่มีเงินหมุนค้าขายและใช้จ่ายในครอบครัว เพราะเงินที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดูดเอาไป เป็นเงินที่เก็บสะสมจากการขายของชำมาเกือบ 10 ปี ได้กำไรแค่ชิ้นละ 1 – 2 บาท ก็ยังมาถูกหลอกดูดเงินซ้ำเติมอีก
น.ส.อภิรดี ผู้เสียหาย ยังพูดตัดพ้อทั้งน้ำตาด้วยว่า ไปเล่าให้เพื่อนหรือคนรู้จักฟังบางคนก็เฉยๆ บางคนก็พูดว่าไม่ได้คืนหรอก พอไปแจ้งตำรวจผ่านไปเป็นปีก็เงียบไม่เห็นมีอะไรคืบหน้าเลย รู้สึกเครียดเพราะเป็นเงินเก็บก้อนเดียวและก้อนสุดท้าย กว่าจะหามาได้ก็ลำบากหยอดกระปุกไว้วันละ 10 – 20 บาท พอครบ 500 บาทเอาไปฝากธนาคารเพื่อเป็นเงินเก็บ แต่จู่ๆ กลับถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดูดไปหมดเลย
ตอนนั้นนั้นเครียดมากถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับเลย ถึงขั้นเผาบัญชีธนาคารทิ้งและคิดจะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ แต่สงสารลูกและหลานอีก 3 คน จึงอยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยติดตามเงินที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดูดไปกลับคืนด้วย เพราะเชื่อว่าถ้าไล่ตามบัญชีที่โอนไปน่าจะตามได้ และอยากให้ดำเนินคดีกับกับแก๊งดังกล่าวด้วย จะได้ไม่ไปหลอกคนอื่นอีก