พิษณุโลก - หนุ่มแผนกช่างพิมพ์ รพ.พุทธฯ เคยประสบอุบัติเหตุมีปัญหาทางสมอง-ป่วยซึมเศร้า/จิตเวช ก่อเหตุสลดรมควันฆ่าตัวตายคาเก๋ง เผยเคยผูกคอมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ-ญาติช่วยไว้ทัน
วันนี้ (18 ธ.ค.66) ร.ต.อ.สมศักดิ์ ขอเทียม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งพบบุคคลเสียชีวิตอยู่ภายในรถเก๋ง ข้างร้านกาแฟถนนเลียบทางรถไฟด้านหลังโรงพยาบาลพุทธ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยหน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิปราสาทบุญญสถานพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธชินราช ร่วมเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ ภายในรถเก๋งสีขาวยี่ห้อ toyota รุ่น corona altis หมายเลขทะเบียน ฎล-8826 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถข้างร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ถนนเรียบทางรถไฟ หลังโรงพยาบาลพุทธชินราช พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายผดุงเกียรติ โตมี อายุ 48 ปี เป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติงานแผนกช่างพิมพ์ โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก สภาพนอนหงายอยู่ที่เบาะคนขับ คาดเบลท์ เอนเบาะลักษณะคล้ายนอน สวมเสื้อยืดแขนยาวสีส้มกางเกงยีนส์ขายาว
ตรวจสอบเบาะด้านข้างคนขับพบเตาอั้งโล่มีร่องรอยของการจุดเตาวางอยู่ที่พื้น บนเบาะด้านข้างพบขวดสุราขาว 1 ขวด ขวดน้ำ 1 ขวด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ไฟแช็ค 1 อัน ถุงยาจำนวนหนึ่ง และพบถุงถ่าน 1 ถุงมีร่องรอยถูกเปิดใช้งานวางอยู่ข้างๆด้วย
นายณัฐวุฒิ เทพเทียน อายุ 26 ปี ผู้พบศพคนแรกเล่าให้ฟังว่า มาจอดรถอยู่บริเวณด้านข้างรถเก๋งคันดังกล่าวเพื่อรอรับออเดอร์โซนนี้ จังหวะขึ้นไปคร่อมรถจักรยานยนต์ มองเข้าไปในรถเห็นมีคนนอน พอเพ่งดูดีๆก็พบว่า ไม่น่าจะหายใจแล้ว จึงรีบวิ่งไปแจ้งเจ้าของร้านกาแฟและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบช่วยเหลือดังกล่าว
ต่อมาแฟนสาวของผู้เสียชีวิตเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ ยืนยันว่า ผู้เสียชีวิต เป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก เคยประประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์มีปัญหาทางด้านสมอง และมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า/จิตเวช อยู่ในระหว่างทานยารักษาตัว เมื่อประมาณ 1 ปีก่อนเคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว 1 ครั้งด้วยการผูกคอตาย ซึ่งญาติสามารถช่วยไว้ได้ แต่ตลอดเวลามักจะบ่นตัดพ้อว่าอยากฆ่าตัวตายบ่อยครั้ง กระทั่งมาทราบว่า กลายเป็นศพรมควันเสียชีวิตอยู่ภายในรถ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตได้เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่นิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช ก่อนมอบร่างให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป