เชียงใหม่-สมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือรวมตัวบุกห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่สาขาเชียงใหม่ โวยตั้งราคาขายเนื้อหมูถูกกว่าท้องตลาด ทำกลไกราคาปั่นป่วนและเกษตรกรผู้เลี้ยงเดือดร้อนไม่สามารถขึ้นราคาสุกรมีชีวิตได้ ทั้งที่ต้นทุนอาหารสัตว์แพงขึ้น พร้อมจี้ปศุสัตว์ตรวจสอบแหล่งที่มาเนื้อหมูของทางห้าง โดยเฉพาะหลักฐานการนำเข้าตับหมูจากต่างประเทศ ด้านผู้บริหารห้างยืนยันไม่ได้ขายราคาต่ำเกินจริงและมีแหล่งที่มาถูกต้อง
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ช่วงสายวันนี้(18 ธ.ค.66) ที่ห้างแม็คโคร เชียงใหม่ ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงศ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ นำตัวแทนกลุ่มผู้เลี้ยงสุกร เข้าพบกับผู้บริหารห้างดังกล่าวเพื่อขอให้ทบทวนวิธีการตั้งราคาขายเนื้อสุกรในเหมาะสมและใกล้เคียงกับเขียงหมูในท้องตลาด โดยระบุว่าราคาสุกรมีชีวิตหรือสุกรเป็นหน้าฟาร์มขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 75 บาท และราคาขายสุกรเนื้อแดงตามโครงสร้างกลไกตลาด ควรจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท แต่ทางห้างขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 110 บาท ซึ่งถือว่าต่ำกว่ามาก
ทั้งนี้ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเขียงหมูได้รับผลกระทบหนัก รวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรไม่สามารถขึ้นราคาสุกรเป็นได้ แม้ราคาต้นทุนอาหารสัตว์จะเพิ่มสูงขึ้นมาก ส่งผลให้จำเป็นต้องขายขาดทุน อีกทั้งยังขอให้ชี้แจงแหล่งที่มาของเนื้อสุกรว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะทราบว่าบางส่วนมีโบรกเกอร์นำมาส่งขาย ซึ่งไม่แน่ใจว่านำมาจากต่างประเทศหรือไม่ โดยกรณีดังกล่าวนี้ทางนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ ได้ยื่นหนังสือให้กับตัวแทน 3 หน่วยงานด้วย ประกอบไปด้วย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ และทางห้างค้าส่งดังกล่าว
ด้านนางสาวเอกธิดา เสรีรัตน์วิภาชัย ผู้บริหารห้างค้าส่งดังกล่าว ยืนยันว่าราคาจำหน่ายเนื้อสุกรของห้างเป็นไปตามกลไกตลาด และรับซื้อจากเกษตรกรในจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรายย่อย รายกลาง หรือรายใหญ่ มีแหล่งที่มาถูกต้องตามกฎหมาย สะอาด ปลอดภัย มีเอกสารรับรองจากกรมปศุสัตว์ครบถ้วน และสุ่มตรวจความปลอดภัยเป็นระยะ โดยไม่มีนโยบายจำหน่ายราคาต่ำกว่าทุน แต่ยอมได้กำไรไม่มาก เพราะทางห้างทำธุรกิจตอบสนองผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำสินค้าไปขายทำกำไรต่อ หากขายแพงไปพ่อค้าคนกลางอาจไม่มีกำไร และจะมีผลสะท้อนกลับมาว่าห้างขายของแพง ขณะที่ตลาดทั่วไปภายนอกยังมีราคาต่ำกว่าที่ห้างจำหน่ายด้วย
ส่วนของตับหมูนำเข้าที่เกษตรกรข้องใจนั้น เนื่องจากในหมูหนึ่งตัวจะมีตับเพียงแค่ 1 กิโลกรัม จึงไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ มีการนำเข้าจากต่างประเทศมานานแล้ว โดยมีใบรับรองตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเวลาที่นำมาจำหน่าย โดยทางห้างยินดีสนับสนุนกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย สามารถรับซื้อได้หากมีมาตรฐานถูกต้อง ปลอดภัย หากเกษตรกรรายใดยังไม่มี สามารถทำความร่วมมือร่วมกันเพื่อขอร่วมกันได้ ส่วนราคาหมูที่ผิดปกติในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา ต้องฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลเร่งตรวจสอบให้ด้วย