xs
xsm
sm
md
lg

ยังไม่จบง่ายๆ คดียิงนักข่าวท้องถิ่นเมืองพัทยา ล่าสุดพ่อโพสต์เฟซบุ๊กแฉปมสังหารเชื่อขัดขวางขบวนการสีเทาในพื้นที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าว​ศรี​ราชา​ - ยังไม่จบง่ายๆ คดียิงนักข่าว​ท้องถิ่น​เมืองพัทยา ล่าสุด พ่อโพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อการทำงานของตำรวจในพื้นที่ปิดคดีง่ายเกินไป เชื่อปมยิงเกิดจากการเปิดโปงขบวนการสีเทาทั้งในสายผู้มีอำนาจและยาเสพติดในเมืองพัทยา จี้ตรวจสอบเส้นทางการเงินมือยิงหวังสาวถึงตัวการใหญ่

จากเหตุการณ์คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ใช้ปืนลูกซองประกบยิง นายณัฐภัทร บุญชาลี อายุ 28 ปี ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นของเมืองพัทยา จ.ชลบุรี จนกระสุนเจาะโหนกแก้มและเบ้าตาได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดวันทึ่ 13 ธ.ค. ริมถนนหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในซอยเพ็ชรตระกูล ตัดถนนพัทยาสาย 3 หลังเกิดเหตุผู้บาดเจ็บได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมืองพัทยา และส่งต่อไปเข้ารับการผ่าตัดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลชลบุรี

หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้บุกรวบตัว 2 ผู้ต้องสงสัยภายในห้องพัก ซึ่งในเบื้องต้น ทราบว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 รายรู้จักกับผู้ได้รับบาดเจ็บ และตำรวจได้นำตัวสอบเครียดเพื่อติดตามตัวมือยิงมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

จนทำให้ในช่วงค่ำวันที่ 13 ธ.ค.2566 ศาลจังหวัดพัทยาได้ออกหมายจับ นายขวัญชัย ปานทอง หรือเป๊ก อายุ 32 ปี ชาว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในฐานความผิดพยายามฆ่าผู้อื่น และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน หมายเลขคดีที่ 654/2566 ซึ่งเป็นมือปืนก่อเหตุยิงผู้สื่อข่าวท้องถิ่นจนตาข้างซ้ายสูญเสียการมองเห็นและขณะนี้ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลชลบุรีนั้น


ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (17 ธ.ค.)​นายอธิบดี บุญชาลี หรือ บก.อั๋น ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวตัดพ้อถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ว่าสรุปการก่อเหตุของผู้ต้องหาง่ายเกินไป ทั้งที่ยังมีปมน่าสงสัยหลายประเด็น พร้อมเรียกร้องให้เพื่อนฝูงในวงการข่าวช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกชาย

พร้อมติดเแฮชแท็ก #แฉ! ปมยิง “อิ้งค์ อธิปบูรพา” #สังคมคาใจไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า #จี้ตำรวจลากคอจอมบงการ! โดยมีเนื้อหาคร่าวๆระบุว่า

"แม้เสียงปรบมือจะดังรัวๆ ชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะทีมสืบสวนสภ.เมืองพัทยา ที่ใช้ความพยายามตามแกะรอยกลุ่มคนร้าย จนสามารถรวบตัวมาได้ภายในห้วงเวลาที่ยังไม่ทันข้ามวันในการเข้ามอบตัวของ นายขวัญชัย ปานทอง หรือ “เป๊กหนองเกตุใหญ่” มือลั่นไกวัย 32 ปี เมื่อเวลา 4 ทุ่มเศษวันเดียวกันนั้น

และแม้ผู้ต้องหาจะยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นคนยิง หากมองดูผิวเผินแล้วอาจคิดว่าด้วยเพราะสำนึกผิด ตามคำกล่าวอ้างว่า ประกอบสัมมาอาชีพด้วยการขี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และไม่เคยมีเรื่องราวขัดแย้ง หรือรู้จักกันมาก่อนแต่อย่างใด ซึ่งการลั่นไกเป็นด้วยอารมณ์บันดาลโทสะ อ้างว่าเพราะเหยื่อคมกระสุนขี่มอเตอร์ไซค์ปาดหน้า แถมยังแจก “กล้วย” อีกด้วย


จึงใช้ปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ บรรจุกระสุนลูกปรายจ่อยิงด้วยมือซ้าย ขณะมือขวาบิดคันเร่ง หมายเด็ดชีวิตในระยะเผาขน! โฟกัสพุ่งเป้าเน้นไปที่จุดตายหมายระเบิดสมอง แต่ด้วยมุมองศาเปลี่ยนขณะรถกำลังวิ่ง ทำให้พลาดเป้า กระสุนพุ่งเจาะกรามด้านซ้าย พุ่งเฉียงขึ้นไปตุงเบ้าตาขวา ลูกตะกั่วฝังกระจายในกะโหลก 40 กว่าเม็ด

ก่อนจะเร่งเครื่องหลบหนีไป พร้อมกับเพื่อน 2 คนที่ซ้อนท้ายขี่ประกบกันมา ดูราวคล้ายกับว่า คอยมาทำหน้าที่คุ้มกัน สุดท้ายแม้ทางตำรวจจะตามลากคอมาได้ยกแก๊งก็ตาม!!

และถึง “เป๊ก หนองเกตุใหญ่” จะเปิดปากรับว่าเป็นคนลั่นไกแต่เพียงผู้เดียว ส่วนเพื่อนทั้งสองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ก็ตาม แต่หากไล่เรียงดูแผนประทุษกรรมของคนร้ายที่ถูกบันทึกภาพด้วยกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆแล้ว ภาพเหตุการณ์มันกลับ “ย้อนแย้ง” ขัดกับคำรับสารภาพตามที่กล่าวอ้าง ราวว่าถูกบรรจงแต่งด้วยลิ้นไม่มีกระดูกจากปากของมือปืน พูดไปตามบทที่ถูกออกแบบมาเมื่อทำงานพลาด


นายอธิบดี ยังระบุอีกว่า ผู้สันทัดในแวดวงนักฆ่าดูทรงการขับขี่ มือปืนไล่กวดประชิด เข้าตีขนาบประกบเหยื่อจากทางด้านซ้าย ก่อนจะเหนี่ยวไกปืนยิงผ่านหน้าตัวเองด้วยมือซ้าย ขณะที่มือขวาบิดคันเร่ง มองปราดเดียวรู้เลยว่ายุทธวิธียิงในลักษณะเช่นนี้ ไม่ใช่ประเภทอ่อนหัด หรือมือสมัครเล่น ถ้าไม่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างช่ำชองชำนาญการ คงยากที่จะทำได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ เฉียบขาด

ยิ่งอาวุธที่นำมาใช้เป็นปืนหักกลางลำ บรรจุกระสุนลูกซองซึ่งมีแรงถีบรุนแรง ถ้าไม่มีทักษะผ่านการฝึกมาปืนต้องสะบัด แต่ดูจากคลิปกลับนิ่งและเหนี่ยวไกอย่างเลือดเย็น ขณะที่ชาวบ้านชาวเมืองไม่มีใครเชื่อน้ำลายที่คนร้ายพ่นออกมา ม่านคดีรูดลงอย่างสวยหรู แต่เสียงคนดูกลับ “อื้ออึง” ไปทุกหย่อมหญ้า ปมค้างคาใจสังคมดังระงมทุกหัวระแหงทำไมถึงจบแบบ “ตาลยอดด้วน”

และในท้ายข้อความยังระบุว่า หากมองย้อนเส้นทางการทำงานของ 2 พ่อลูกนักข่าวท้องถิ่นสังกัด "อธิปบูรพา" ถือว่าแขวนอยู่บนเส้นด้ายมาโดยตลอด ด้วยเพราะยึดมั่นต่ออุดมการณ์แห่งวิชาชีพในการทำหน้าที่ “หมาเฝ้าบ้าน” และหลายเรื่องหลายบริบทของสังคม “อธิปบูรพา” หยิบยกออกมาบอกกล่าวต่อสาธารณชนยังสะท้อนไปยังผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมืองทั้งแง่มุมสว่างและเงามืด

โดยเฉพาะ “ภัยยาเสพติด” ที่ระบาดหนักหน่วงรุนแรงในพื้นที่เมืองพัทยา และการใช้สถานบันเทิงเป็นแหล่งปล่อยของ เดินยา ค้าขายกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน จึงอาจเป็นอีกปมหนึ่งในการหวังสังหาร


โดยก่อนหน้านี้ นายอธิบดี​ บุญชาลี ยังได้เรียกร้องให้ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ทำการสอบสวนเพิ่มใน 3 ประเด็นคือ 1.ให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุไปไหนมาบ้าง ไปหาใคร และอยู่กับใคร

2.ทำเรื่องขอเช็กข้อมูลทางโทรศัพท์ ทั้งการโทร.เข้าออก 1-2 เดือน และข้อมูลแผนที่ทางโทรศัพท์ (GPS) ว่าก่อนเกิดเหตุ กลุ่มผู้ก่อเหตุ ไปไหนมาบ้าง และอยู่กับใครมาบ้าง ทั้งก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ

3.ให้เช็กทางบัญชีการเงินว่ามีเงินเข้ามากกว่าปกติของการประกอบอาชีพ จยย.รับจ้าง หรือไม่ และขอให้ตำรวจตรวจสอบโทรศัพท์​มือถือของมือยิงอีกด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น