เชียงราย – ผบ.ยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก นำ จนท.คุมตัว หนุ่มสาวชาวไทย 111 ชีวิต ที่สมัครใจ/ถูกหลอก-บังคับร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทารัฐฉานเหนือ ก่อนถูกจีน-ว้า บุกช่วยเหลือ ส่งข้ามแดนกลับถึงแม่สายแล้ว พบมีหมายจับติดตัว 10 ราย
วันนี้ (15 ธ.ค.66) พ.อ.ณฑี ทิมเสน ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง และประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) ฝ่ายไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้ารับคนไทยจำนวน 111 คน ซึ่งมีทั้งสมัครใจและถูกหลอกให้ไปทำงานร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในรัฐฉานตอนเหนือ ประเทศเมียนมา กลับคืนสู่ประเทศไทย
ซึ่งทั้งหมดแบ่งเป็นชาย 74 คน หญิง 37 คน เจ้าหน้าที่จีน-ตำรวจว้า ช่วยเหลือจากเมืองแผน เขตปกครองกองทัพสหรัฐว้า ก่อนที่จะนำตัวทั้งหมดส่งทางการเมียนมาที่เชียงตุง ก่อนส่งตัวให้ พ.อ.ตู่่ล่า ส่อ วิน โซ ผบ.ยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา นำทั้งหมดมาส่งมอบให้กับฝ่ายไทยที่จุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ทั้งนี้พบว่าทั้งหมดเป็นบุคคลที่มีหมายจับคดีในฝั่งไทยจำนวน 10 คน เป็นชาย 8 คน และหญิง 2 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปส่ง สภ.แม่สาย ทันที ส่วนที่เหลืออีก 101 คนนั้น หลังทำการตรวจสุขภาพและหลักฐานต่างๆ แล้ว ได้นำไปพักที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน (อส.) จ.เชียงราย และมูลนิธิศูนย์ชีวิตใหม่ในเขต อ.เมืองเชียงราย
พ.อ.ตู่ล่า ส่อ วิน โซ ผบ.ยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก กล่าวว่ากองทัพเมียนมายินดีที่จะให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการส่งตัวคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อนให้กลับประเทศไทย เพราะมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพของทั้ง 2 ประเทศ
ด้าน พ.อ.ณฑี กล่าวว่าทางการเมียนมาได้ช่วยเหลือนำคนไทยกลับประเทศเป็นครั้งที่ 4 แล้ว และมีผู้ได้รับการส่งตัวกลับรวม 179 คน ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาถือว่าเกิดจากความสัมพันธ์ของกองทัพทั้งของไทยและเมียนมาที่ม่ความแน่นแฟ้น และจากนี้จะให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกันแบบนี้ตลอดไป
สำหรับชาวไทยทั้ง 111 คนพบว่ามีอายุตั้งแต่ 16-34 ปี คนที่มีอายุน้อยที่สุดเป็นหญิงสาวชาว จ.เชียงใหม่ บางส่วนสมัครใจ-บางส่วนถูกหลอกให้ไปทำงานอยู่ในที่เมืองแผน เขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ประเทศเมียนมา ติดกับชายแดนประเทศจีน หลายคนถูกบังคับให้ทำงานหลอกให้คนไปลงทุนออนไลน์หลายเดือน หากฝ่าฝืนก็จะถูกทำร้ายร่างกาย
กระทั่งทางการจีนมีมาตรการปราบปรามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประกอบกับมีทีมงานภาคประชาสังคมช่วยเหลือการค้ามนุษย์ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน องค์กรเอกชน (NGO) ฯลฯ ช่วยประสานงานกับทุกฝ่ายทั้งในและต่างประเทศ เมื่อทางการจีนส่งกำลังตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ว้าเข้าปราบปรามในเขตเมืองแผนอย่างหนักตั้งแต่เดือน ต.ค.พ.ย.2566 ทำให้ทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือออกมาดังกล่าว
โดยสถานการณ์เมืองแผน เขตว้า แตกต่างจากเมืองเล่าก์ก่ายในเขตปกครองตนเองโกกั้งซึ่งอยู่ตอนเหนือขึ้นไปเพราะในเขตโกกั้งมีกองกำลังพันธมิตรนำโดยกองทัพโกกั้ง (MNDAA) บุกเข้าโจมตีด้วย จนทำให้มีคนไทยที่ทำงานอยู่หนีภัยสงครามออกมาเป็นจำนวนมากดังกล่าว.