กาญจนบุรี - อนุทิน ควงชาดา บินด่วนแถลงรวบ “ไอ้หนุ่ม-น้องพร” สองสามีภรรยา ใช้ 6 ล้อขนยาบ้าเข้าไทย ล็อตประวัติศาสตร์ 50 ล้านเม็ด มูลค่า 1,500 ล้าน สารภาพทำมาแล้ว 6 เที่ยวๆ ละ 1 แสน
จากกรณี นายปิติพันธ์ น้อมสูงเนิน หรือ “หนุ่ม ปรังเผล” อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/12 หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และ น.ส.พรศิริ คงนานดี หรือพร อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี สองสามีภรรยาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวพร้อมของกลางรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาวเทา หมายเลขทะเบียน 70-1146 มุกดาหาร 1 คัน ยาบ้า 250 กระสอบๆละ 200,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมด จำนวน 50,000,000 เม็ด (ห้าสิบล้านเม็ด) มูลค่า 1,500 ล้านบาท (เม็ดละ 30 บาท) และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ยึดทรัพย์ 242,000 บท ทั้งสองถูกจับกุมได้ที่จุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ในเวลา 14.00 น.ของวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (13 ธ.ค.) ที่หน้าอาคารศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) สถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครองได้บินด่วนมาแถลงข่าวกรณีข้างต้น
โดยมีนายรณภพ เวียงสิมมา รอง ผวจ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.มนตรี แตงโต ผกก.สภ.ทองผาภูมิ
พ.อ.พงษ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.สุรเดช เมฆานุวงศ์ รอง ผบ.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) พ.ต.ท.ธีรพร วิจิตรบรรณการ รองผกก.สส.สภ.ทองผาภูมิ นายปกรณ์ กรรณวัลลี ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปส.4 (นปส.กาญจนบุรี) เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 7 เจ้าหน้าที่ กก.สส.1 บก.สส.ภ.7 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ (พฐ.จังหวัด) และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภาค 7 (พฐ.ภ.7) เข้าร่วมแถลง
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เผยว่า การตรวจยึดยาบ้าในครั้งนี้ได้มากถึง 50 ล้านเม็ด ถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอยู่ที่จุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ ได้พบรถบรรทุกลักษณะตรงตามสายข่าวที่แจ้งมา จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จากการตรวจค้นปรากฏพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุในกระสอบมากถึง 50 ล้านเม็ด โดยผู้ต้องหาได้ลักลอบขนมาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้านทางด้านอำเภอสังขละบุรี โดยจะนำไปส่งในพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี จากนั้นจะมีผู้มารับช่วงต่อ แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธว่าไท่ทราบจุดหมายปลายทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนต่อไป
ที่ผ่านมา ขบวนการค้ายาเสพติดจะลักลอบนำเข้าตามแนวชายแดนภาคเหนือตอนบน แต่ปัจจุบันมีการจับกันอย่างเข้มข้น และมีการสกัดจับยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก เช่นเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้มีการสกัดจับได้ที่จังหวัดแพร่ ของกลางยาบ้าจำนวน 7 ล้านเม็ด เมื่อเจ้าหน้าที่สกัดจับอย่างเข้มข้นขบวนการดังกล่าวจึงมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางอื่นไปเรื่อยๆ และในที่สุดจึงมาใช้เส้นทางแนวชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งยาเสพติดทั้งหมดเป็นการลำเลียงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน
ถึงแม้ว่าขบวนการค้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านจะเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงก็ตาม แต่ไม่พ้นถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองของเราจับกุมเพราะเจ้าหน้าที่ของเราได้สนธิกำลังกันอย่างเต็มที่ ทำให้สามารถจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ได้ทุกครั้ง ซึ่งเป็นเพราะการปฏิบัติงานอย่างเข้มข้นและจริงจังในการสกัดกั้นของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ป.ป.ส.รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ การที่เดินทางมาในวันนี้เพื่อแสดงความชื่นชมและให้กำลังใจต่อเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน
“ซึ่งก่อนเดินทางมาได้ขออนุญาตนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยขอลาการประชุม เพื่อเดินทางมาดูการแถลงข่าวจับยาบ้า จำนวน 50 ล้านเม็ด ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ฝากกล่าวชื่นชมให้กำลังใจและขอบคุณทีมงานเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่ได้ปฏิบัติภารกิจอย่างกล้าหาญ โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ใดๆ และมีความตรงไปตรงมาที่มั่นคง ที่ได้ตอบสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีในภาคส่วนของการปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งการปราบปรามผู้มีอิทธิพล การปราบปรามอาวุธที่ร้ายแรง ซึ่งถือว่าภาพที่ดีเช่นนี้จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นการทำงานร่วมกันด้วยวัตถุประสงค์และมีเป้าหมายเดียวกัน โดยไม่มีการแข่งกันทำเพื่อหน่วยงานของตัวเองเป็นหลัก” นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนหาข่าวเพื่อป้องกันและปราบปรามในการติดตามจับกุมเครือข่ายลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ตามนโยบายของรัฐบาล จนกระทั่งสืบทราบว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบขนยาเสพติดมาจากฝั่งอำเภอพญาตองซู ประเทศพม่า โดยใช้รถบรรทุกเป็นพาหนะ ด้วยการซุกซ่อนยาเสพติดเอาไว้ในถุงบิ๊กแบ็กสำหรับขนขยะรีไซเคิลปิดบังอำพรางเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ หลังจากทราบข้อมูลเจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังออกหาข่าว พร้อมตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่จุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
จนกระทั่งเวลา 14.00 น.ของวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบรถ 6 ล้อ บรรทุกถุงบิ๊กแบ็กลักษณะตรงตามที่สืบทราบมา ขับมาจากทางด้านอำเภอสังขละบุรี มุ่งหน้าอำเภอทองผาภูมิ เมื่อมาถึงด่านเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น โดยมีนายปิติพันธ์ น้อมสูงเนิน หรือหนุ่ม ปรังเผล เป็นคนขับ มี น.ส.พรศิริ คงนานดี หรือพร ภรรยานั่งโดยสารมาด้วย
จากการตรวจค้นภายในถุงบิ๊กแบ็กที่บรรทุกมาเต็มท้ายรถปรากฏว่าพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เม็ดสีส้มและสีเขียวระบุอักษร WY และ R บรรจุในถุงกระสอบปุ๋ยสีขาว กระสอบละ 200,000 เม็ด จำนวน 250 กระสอบ รวมยาบ้าทั้งหมด 50,000,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงนำของกลางทั้งหมดมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.ทองผาภูมิ พร้อมกับทำการตรวจฉี่ของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ผลเป็นสีม่วง ซึ่งโรงพยาบาลทองผาภูมิได้ยืนยันว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 มีสารเสพติดในร่างกาย
จากการสอบสวนนายปิติพันธ์ น้อมสูงเนิน หรือ “หนุ่ม ปรังเผล” ให้การยอมรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายโซ ชาวพม่าได้โทรศัพท์มาหาพร้อมกับแจ้งว่า ในวันที่ 12 ธ.ค.มีงานให้ทำและให้ตนเดินทางไปพักค้างคืนที่ฝั่งอำเภอพญาตองซู ประเทศพม่า หลังจากนั้นตนจึงขับรถจักรยานยนต์ไปเช่าโรงแรมที่อยู่ฝั่งอำเภอสังขละบุรีพักค้างคืนกับภรรยา โดยไม่ได้ข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อเช่าโรงแรมแล้วเสร็จ จึงโทร.แจ้งให้นายโซ ทราบสถานที่พัก
ต่อมาเวลา 08.00 น.วันที่ 12 ธ.ค. ตนกับแฟนสาวได้ขับรถจักรยานยนต์ไปหาเพื่อนชื่อกาน ที่อยู่ที่รีสอร์ตอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 9 ต.หนองลู เพื่อให้เพื่อนชื่อกาน ไปส่งที่ร้านรับซื้อของเก่า ที่อยู่ภายในซอยเกษตร 8 เพื่อไปขับรถ 6 ล้อบรรทุกยาบ้าที่จอดเอาไว้ภายในร้านรับซื้อของเก่า โดยนายโซ ได้วางกุญแจและเงินสด จำนวน 5,000 บาท เอาไว้ใช้จ่ายเป็นค่าน้ำมันรถ หลังจากแวะเติมน้ำมันแล้วเสร็จจึงเดินทางต่อเพื่อนำยาบ้าไปส่งที่จุดนัดหมายแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี โดยที่ผ่านมาตนเคยทำในลักษณะนี้มาแล้ว 5 ครั้ง แต่ละครั้งจะได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 เมื่อมาถึงจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ มาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นและจับกุมตัวได้เสียก่อน
หลังจากนายปิติพันธ์ น้อมสูงเนิน หรือ “หนุ่ม ปรังเผล” และน้องพร แฟนสาว ให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และมีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป เป็นผู้ขับขี่รถบรรทุกไม่ประจำทางมีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) อยู่ในร่างกายขณะขับขี่ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ส่วนผู้ร่วมขบวนการเจ้าหน้าที่รู้ตัวหมดแล้ว แต่อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน ซึ่งจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อไป